ข้อควรรู้! ออกรถใหม่ต้องเตรียมอะไรบ้าง เลือกติดฟิล์มรถยนต์ยี่ห้อไหนดี

ข้อควรรู้! ออกรถใหม่ต้องเตรียมอะไรบ้าง เลือกติดฟิล์มรถยนต์ยี่ห้อไหนดี
คนรักรถควรรู้
  • ค่าใช้จ่ายที่ต้องเตรียมในวันออกรถใหม่ ได้แก่ ค่าเงินดาวน์ ค่าผ่อนชำระงวดแรก ค่าจดทะเบียน ค่ามัดจำป้ายทะเบียน ค่าเบี้ยประกันภัย และค่าน้ำมันรถยนต์ โดยรวมประมาณ 30,000 บาท
  • นอกจากเงินแล้ว ควรเตรียมเอกสารให้ครบ ไม่ว่าจะเป็นบัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน ใบขับขี่ หนังสือรับรองการทำงาน สลิปเงินเดือน และแบบฟอร์มอื่นๆ อาทิ หนังสือมอบอำนาจ
  • ควรตรวจเช็กสภาพรถยนต์อย่างละเอียดก่อนนำรถออกจากศูนย์ ทั้งตรวจเช็กสภาพภายนอกตัวรถยนต์ สี กระโปรงรถ ประทุนรถ ยางรถ รวมถึงตรวจเช็กสภาพภายนอกตัวรถยนต์ เบาะ เข็มขัด แอร์ ระบบไฟฟ้า เบรก และคู่มือต่างๆ ที่อยู่ในตัวรถยนต์
  • เมื่อออกรถใหม่ อย่าลืมนำรถยนต์ไปติดฟิล์ม ควรเลือกฟิล์มรถยนต์ที่ใส เงางาม ทนทานต่อความร้อนและรอยขีดข่วนได้ดี พร้อมป้องกันคราบน้ำ และสิ่งสกปรกต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ติดตั้งฟิล์มรถยนต์ 3Mที่ SPMS-EST มีฟิล์มให้เลือกมากมายทั้ง 3M คริสตัลไลน์ 3M เซรามิค เพรสทีจ 3M เซรามิค อัลตร้าเคลียร์ 3M เซรามิค เอส อิดิชั่น 3M เซรามิคแอบโซลูท ซีรีส์ และ3M ซี เอ็ม พลัส ให้เลือกตามความต้องการ

ออกรถยนต์คันใหม่ทั้งที ไม่ใช่แค่การเข้าไปเลือกซื้อรถยนต์ยี่ห้อที่ถูกใจ หรือเลือกรุ่นที่ชอบในโชว์รูมเท่านั้น แต่ยังต้องเตรียมเอกสารต่างๆ มากมายก่อนออกรถ รวมถึงการเช็กสภาพรถยนต์อย่างถูกวิธี และการเตรียมความพร้อมรถให้ดี ก่อนขับออกไปโลดแล่นบนท้องถนนอย่างจริงจัง

บทความนี้ได้รวบรวมเอาทุกข้อควรรู้เกี่ยวกับการออกรถมาไว้ให้แล้ว ก่อนออกรถใหม่ต้องเตรียมอะไรบ้าง ตรวจเช็กสภาพรถยนต์อย่างไร เลือกติดฟิล์มรถยนต์ยี่ห้อไหนดี ไปดูกัน!

เตรียมเงินให้พร้อมสำหรับวันออกรถใหม่

1. เตรียมเงินให้พร้อมสำหรับวันออกรถใหม่

ออกรถใหม่ต้องเตรียมอะไรบ้าง? เริ่มต้นกันที่การเตรียมเงินให้พร้อมสำหรับวันรับรถ เพราะการรับรถจะต้องมีค่าใช้จ่ายต่างๆ โดยแบ่งค่าใช้จ่ายได้ดังนี้

  • ค่าเงินดาวน์ และค่าผ่อนชำระงวดแรก ซึ่งขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และข้อตกลง
  • ค่าใช้จ่ายสำหรับจดทะเบียน 3,500-5,000 บาท ขึ้นอยู่กับยี่ห้อ และรุ่นรถยนต์ ทั้งนี้ สามารถนำรถไปจดป้ายทะเบียนเองได้ แต่ถ้าให้โชว์รูมที่ออกรถทำให้จะสะดวกกว่า
  • เงินค่ามัดจำป้ายทะเบียน ประมาณ 3,000 บาท
  • ค่าเบี้ยประกันภัย โดยประกันภัยชั้นหนึ่งจะอยู่ที่ประมาณ 20,000 บาทต่อปี
  • ค่าน้ำมันรถยนต์ รถยนต์จะเติมน้ำมันมาไว้ให้แล้วเต็มถัง โดยราคาจะเริ่มต้นที่ 1,200 บาท ขึ้นอยู่กับราคาน้ำมันในช่วงเวลานั้นด้วย

2. เตรียมตรวจสอบเอกสารให้ครบ

นอกจากเงินที่ต้องเตรียมไปแล้ว ยังมีเอกสารต่างๆ ที่ควรเตรียมมาให้ครบในวันรับรถอีกด้วย โดยการออกรถใหม่ต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง? ไปดูกัน

  • สำเนา และบัตรประจำตัวประชาชนตัวจริงที่ยังไม่หมดอายุ หรือหนังสือเดินทางในกรณีที่เป็นชาวต่างชาติ
  • สำเนาทะเบียนบ้านของเจ้าของรถยนต์
  • ใบขับขี่ฉบับจริงของเจ้าของรถยนต์
  • หนังสือรับรองการทำงาน ในกรณีที่ต้องการผ่อนรถ
  • ใบสลิปเงินเดือน 3-6 เดือนย้อนหลัง
  • แบบฟอร์มอื่นๆ อาทิ หนังสือมอบอำนาจ ในกรณีที่ให้ผู้อื่นไปรับรถแทน
ตรวจเช็กสภาพรถยนต์อย่างละเอียด

3. ตรวจเช็กสภาพรถยนต์อย่างละเอียด

นอกจากจะต้องรู้ว่าก่อนออกรถใหม่ต้องเตรียมอะไรบ้างแล้ว อย่าลืมตรวจเช็กสภาพรถยนต์อย่างละเอียด เพื่อให้มั่นใจว่ารถยนต์ที่เราจะขับกลับบ้านนั้นอยู่ในสภาพสมบูรณ์ดี ใช้งานได้อย่างไม่มีติดขัด เพราะถ้าหากเซ็นรับรถยนต์กลับบ้านไปแล้วพบว่ามีจุดที่ชำรุดเสียหาย จำเป็นต้องซ่อม ในบางกรณีเราอาจจะต้องเสียเงินค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมเอง โดยการตรวจเช็กสภาพรถยนต์นั้น แบ่งบริเวณที่ควรเช็กออกเป็น 2 ส่วน ดังนี้

ตรวจเช็กสภาพภายนอกตัวรถยนต์

เป็นการตรวจดูความเสียหายต่างๆ บริเวณรอบตัวรถยนต์อย่างละเอียด ตั้งแต่บริเวณตัวรถยนต์ ทั้งด้านหน้า ด้านข้าง ด้านหลัง ใต้ท้องรถยนต์ รวมไปถึงบริเวณกระโปรงรถยนต์ ประตูรถยนต์ กระจกรถยนต์ และบริเวณอื่นๆ อีกด้วย โดยสามารถตรวจตามเช็กลิสต์ได้ ดังนี้

  • สำรวจรอบตัวรถยนต์อย่างละเอียด โดยการมองหารอยขีดข่วน รอบสีที่ไม่สม่ำเสมอ คราบสกปรก หรือร่องรอยแปลกๆ บริเวณรอบตัวรถยนต์
  • ตรวจสอบความสม่ำเสมอของบริเวณกระโปรงรถยนต์ ว่ามีระยะห่างที่เรียบ และเสมอกันดีหรือไม่ รวมถึงลองเปิด และปิดกระโปรงรถยนต์ดูว่าฝืดหรือไม่
  • ตรวจสอบบริเวณประตูรถยนต์ ว่าสามารถใช้งานเปิด-ปิดได้ตามปกติ เช็กสีบริเวณของประตูอย่างละเอียดว่ามีความสม่ำเสมอหรือไม่
  • ตรวจสอบบริเวณประทุนรถยนต์ ว่าสามารถเปิด-ปิดได้ง่ายดายไหม และตอนปิดต้องแนบสนิทกับตัวรถยนต์
  • ตรวจสอบยางรถยนต์ ดูว่ารถมีแรงดันลมยางที่เหมาะสม ตัวยางมีดอกยางที่ใหม่ ไม่ผ่านการใช้งานมาแล้ว ไม่มีร่องรอยร้าว แตก ฉีก ขาด หรือรอยบวม
  • ตรวจสอบระบบไฟรถยนต์ ว่าสามารถเปิด-ปิด ส่องสว่างได้ปกติ เช็กระบบไฟด้วย ไม่ว่าจะไฟหน้า ไฟหลัง ไฟเลี้ยว และไฟภายในตัวรถยนต์
  • ตรวจสอบกระจกรอบตัวรถยนต์ ว่ามีรอยร้าว รอยแตกหรือไม่ รวมถึงลองเปิด-ปิด ดูว่าสามารถใช้งานได้ดี ไม่มีติดขัด หรืออาการฝืดใดๆ
  • ตรวจสอบยางปัดน้ำฝน ว่าแนบไปกับกระจกหรือไม่ และตัวยางต้องมีความยืดหยุ่น ไม่แข็งจนเกินไป เพราะอาจขูดกระจกจนเป็นรอยได้
  • ตรวจสอบอุปกรณ์ช่างประจำรถยนต์ ในบริเวณท้ายรถจะมีอุปกรณ์ช่างต่างๆ อย่างครบครันมาให้ ไม่ว่าจะเป็นอะไหล่ ชุดซ่อม ตัวแม่แรง ประแจ ล้ออะไหล่สำหรับเปลี่ยน เป็นต้น

ตรวจเช็กสภาพภายในตัวรถยนต์

เมื่อตรวจบริเวณภายนอกเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงคราวต้องตรวจบริเวณภายในตัวรถยนต์ มาดูว่าก่อนออกรถใหม่ต้องเตรียมการตรวจเช็กสภาพภายในตัวรถยนต์อะไรบ้าง? มาตามเช็กลิสต์กัน ดังนี้

  • ตรวจเช็กเบาะรถยนต์ โดยตรวจเบาะนั่ง รวมถึงพนักพิง ว่ามีความสะอาด ไม่มีคราบสกปรก หรือรอยขีดข่วนใดๆ และลองปรับเบาะดูว่าฝืดหรือไม่ มีอาการติดขัด หรือใช้งานได้ปกติดีไหม
  • ตรวจสอบเข็มขัดนิรภัย ตรวจสอบความสะอาด การใช้งาน รวมถึงการดึงกลับของตัวเข็มขัดนิรภัยให้เหมาะสม
  • ตรวจเช็กแอร์รถยนต์ ตรวจดูว่าแอร์ส่งกลิ่นไม่พึงประสงค์หรือไม่ หรือทำงานได้ดี ทำความเย็นได้ปกติหรือไม่
  • ตรวจเช็กยางปูพื้นรถยนต์ ตรวจสอบง่ายๆ ด้วยการดูความสะอาด และคราบต่างๆ
  • ลองเสียบกุญแจรถยนต์ ลองเสียบกุญแจรถยนต์ดูว่าติดขัดไหม สามารถเปิด-ปิดตัวเครื่องยนต์ได้ดีหรือไม่ หากเป็นระบบแบบ Keyless นอกจากการติดเครื่อง ก็ควรตรวจสอบระบบประตู และหน้าต่างว่าตอบสนองต่อตัวกุญแจได้ดีหรือไม่
  • ตรวจเช็กไฟในตัวรถยนต์ ตรวจสอบระบบไฟในตัวรถยนต์ทุกดวง รวมถึงไฟหน้าปัด ว่าทำงานได้ปกติหรือไม่
  • ตรวจเช็กระบบเบรกมือ ตรวจสอบว่าสามารถใช้งานได้ปกติ ติดขัดหรือไม่
  • ตรวจเช็กระบบพวงมาลัย ตรวจสอบเสียงเมื่อบิดพวงมาลัย ว่ามีเสียงแปลกๆ หรือไม่
  • ตรวจสอบระบบเครื่องเสียงในตัวรถยนต์ ลองเปิดเพลง เชื่อมจอ เสียบสายต่างๆ ว่าใช้งานได้ปกติดีหรือไม่
  • ตรวจสอบอุปกรณ์และคู่มือ เมื่อซื้อรถยนต์ใหม่ ในตัวรถจะมีเอกสารคู่มือการใช้งานรถ เอกสารรับประกัน สมุดบันทึกคู่มือรักษารถมาให้ ตรวจสอบว่าครบหรือไม่

4. ติดฟิล์มรอบตัวรถ ป้องกันรอยต่างๆ

เมื่อออกรถใหม่เรียบร้อยแล้ว อย่าลืมนำรถยนต์คันใหม่ไปติดฟิล์ม เพื่อป้องกันสีผิวของรถจากรอยขีดข่วนต่างๆ ที่ได้จากสะเก็ดก้อนหินบนท้องถนน รอยขีดข่วนจากอุบัติเหตุที่คาดไม่ถึง ช่วยให้รถดูสวยงาม เงางามอยู่ตลอด พร้อมป้องกันฝุ่น คราบน้ำ คราบสกปรกต่างๆ รวมถึงป้องกันรถจากแสง UV รังสีต่างๆ จากแสงแดด ด้วยนั่นเอง

ติดฟิล์มกันรอยรถยนต์ยี่ห้อไหนดี? ทำไมต้อง 3M ไปดูกัน

ออกรถใหม่ต้องเตรียมตัวติดฟิล์มกันรอยรถยนต์ แต่ไม่รู้ว่าจะเลือกติดฟิล์มยี่ห้อไหนดี แนะนำฟิล์มใสกันรอยจาก 3M Paint Protection Film มีดีอย่างไร ไปดู!

  • ฟิล์มใสมีความเงางาม สวย รักษาความใหม่ของรถยนต์ให้อยู่นาน
  • เทคโนโลยีสุดล้ำ ซ่อมแซมตัวเองจากรอยขีดข่วนเล็กๆ รักษาฟิล์มให้เหมือนใหม่อยู่เสมอ ไม่ต้องเปลี่ยนบ่อยๆ 
  • ทนความร้อนได้ดี ไม่ต้องกลัวสีซีดจากแสงแดด และรังสี UV 
  • ป้องกันการเกิดคราบน้ำ และคราบสกปรกต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ง่ายต่อการทำความสะอาด และบำรุงรักษา
ติดฟิล์มกรองแสงรถยนต์ เพื่อกันแดด และวิสัยทัศน์ที่ดี

5. ติดฟิล์มกรองแสงรถยนต์ เพื่อกันแดด และวิสัยทัศน์ที่ดี

นอกจากฟิล์มใสกันรอยรถยนต์แล้ว อย่าลืมติดฟิล์มกรองแสงรถยนต์เพื่อช่วยกรองแสงจ้า เพิ่มวิสัยทัศน์ขณะขับขี่ ฟิล์มที่ดียังมีคุณสมบัติช่วยลดความร้อนภายในตัวรถยนต์ ประหยัดไฟฟ้า เพราะแอร์ไม่ต้องทำงานหนัก ถนอมสิ่งที่อยู่ในตัวห้องเครื่องอย่างดี ป้องกันแสงยูวีที่เข้ามาทำร้ายดวงตา และผิวของผู้ขับขี่ได้อีกด้วย

ติดฟิล์มกรองแสงรถยนต์ยี่ห้อไหนดี? ทำไมต้อง 3M ไปดูกัน

จะติดฟิล์มกรองแสงที่กระจกรถยนต์แต่ไม่รู้ว่าต้องเลือกยี่ห้อไหนดี? แนะนำติดฟิล์มกรองแสงรถยนต์ 3M ที่มีตัวเลือกฟิล์มกรองแสงมากมายให้เข้ากับไลฟ์สไตล์การขับขี่ และสีของตัวรถยนต์ที่แตกต่างกัน โดยมีตัวเลือกที่โดดเด่นดังนี้

  • ฟิล์มกรองแสง 3M คริสตัลไลน์ ฟิล์มมัลติเลเยอร์นาโนเทคโนโลยี กว่า 200 ชั้น ป้องกันแสงแดด และรังสี UV อย่างมีประสิทธิภาพ แต่มีความบางกว่ากระดาษโพสต์อิท แม้จะปกป้องเต็มที่ แต่ยังมีวิสัยทัศน์ในการขับขี่ที่มีประสิทธิภาพ
  • ฟิล์มกรองแสง 3M เซรามิค เพรสทีจ ฟิล์มกรองแสงที่ดีและเหมาะสมที่สุดกับรถยนต์ไฟฟ้า ฟิล์มเซรามิคซุปเปอร์พรีเมี่ยม รุ่นใหม่ล่าสุดออกแบบมาเฉพาะสำหรับรถ EV ในปัจจุบัน ไม่บล็อคคลื่นสัญญาณอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ
  • ฟิล์มกรองแสง 3M เซรามิค อัลตร้าเคลียร์ มีความโดดเด่นด้านวิสัยทัศน์ที่ชัดเจน ด้วยเซรามิกโมเลกุลระดับนาโน ขนาดเล็ก ช่วยให้ฟิล์มมีความใส มองเห็นได้ชัด แต่ยังป้องกันแสงยูวีได้ถึง 99% รวมถึงแสงอินฟราเรดถึง 95%
  • ฟิล์มกรองแสง 3M เซรามิค เอส อิดิชั่น ฟิล์มรถยนต์ยี่ห้อไหนดีที่มีโทนสีเข้ม? ขอแนะนำ เอส อิดิชั่นที่มีอนุภาคนาโนเทคโนโลยี ให้สีทึบ เพิ่มความเป็นส่วนตัว ปกป้องภายในห้องโดยสารจากแสงแดดอย่างมีประสิทธิภาพ แต่ยังมองเห็นได้ชัดจากภายใน ไม่บดบังวิสัยทัศน์การขับขี่
  • ฟิล์มกรองแสง 3M เซรามิคแอบโซลูท ซีรีส์ ฟิล์มกรองแสงรถยนต์ เข้มภายนอก ใสภายใน ป้องกันแสงแดดอย่างเต็มพิกัด แต่ไม่บดบังการมองเห็น ฟิล์มใช้กาวสูตรเฉพาะจาก 3M พร้อมปกป้องรถยนต์จากรังสียูวี และรังสีอินฟราเรด
  • ฟิล์มกรองแสง 3M ซี เอ็ม พลัส ฟิล์มเซรามิคคุณภาพ ไร้ส่วนผสมของโลหะ ป้องกันการเกิดสนิมอย่างมีประสิทธิภาพ แสงสะท้อนต่ำ ไม่บดบังทัศนวิสัยในการขับขี่ พร้อมลดความร้อนจากภายนอกได้ถึง 65% และลดแสงจ้ากว่า 94%

ติดฟิล์มใสกันรอยรถยนต์และติดฟิล์มกรองแสงรถยนต์ 3M ต้อง SPMS-EST

SPMS-EST ผู้จัดจำหน่ายฟิล์ม 3M รายเดียวในประเทศไทย มั่นใจได้ว่าจะได้ติดฟิล์มแท้แน่นอน นอกจากนี้ SPMS-EST ยังมีทีมงานเฉพาะทางด้านยานยนต์คอยให้คำปรึกษา และแนะนำอย่างใกล้ชิด ตั้งแต่ขั้นตอนก่อนการติดตั้ง การติดตั้ง ไปจนถึงบริการหลังการขาย 

สรุป

ออกรถใหม่ต้องเตรียมอะไรบ้าง? นอกจากเตรียมเงิน และเอกสารแล้ว ยังต้องเตรียมพร้อมสำหรับการตรวจเช็กสภาพรถยนต์ด้วยตัวเอง เพื่อตรวจสอบความเรียบร้อย และจุดบกพร่องของรถยนต์ก่อนเซ็นรับรถอีกด้วย นอกจากนี้ อย่าลืมนำรถยนต์ไปติดฟิล์มกันรอยรถยนต์ และฟิล์มกรองแสงรถยนต์ เพื่อป้องกันรถยนต์อย่างเต็มที่ ให้รถดูเหมือนใหม่อยู่เสมอ

เลือกติดฟิล์มกรองแสงรถยนต์ยี่ห้อไหนดี? มั่นใจติดฟิล์มกรองแสงรถยนต์ 3M ที่ SPMS-EST ผู้จัดจำหน่ายฟิล์ม 3M รายเดียวในประเทศไทย ที่มี Dealer ทั่วประเทศ ที่พร้อมดูแลอย่างใกล้ชิด มั่นใจในทุกขั้นตอนการติดฟิล์มแน่นอน

แชร์บทความนี้