ฟิล์มกันความร้อนสำหรับรถยนต์มีกี่แบบ เลือกฟิล์มอย่างไรให้คุ้มที่สุด

ฟิล์มกันความร้อนสำหรับรถยนต์มีกี่แบบ เลือกฟิล์มอย่างไรให้คุ้มที่สุด
คนรักรถควรรู้
  • ฟิล์มกันความร้อนรถยนต์คือฟิล์มที่มีช่วยป้องกันความร้อน รังสี UV ให้กับรถยนต์ โดยการกรองแสงสว่างที่เข้ามาในรถ
  • มีทั้งหมด 5 แบบ คือ 1) แบบย้อมสี กันความร้อนได้น้อย สะท้อนแสงได้น้อย 2) แบบฉาบไอโลหะ กันรังสี UV และอินฟราเรดได้ดี แต่สะท้อนแสงมาก 3) แบบเคลือบอนุภาคโลหะ กันรังสี UV และอินฟราเรดได้ดี สีทึบให้ความเป็นส่วนตัว 4) แบบเซรามิค กันรังสี UV และอินฟราเรดได้ดีที่สุด ไม่รบกวนทัศนวิสัยตอนขับและไม่ขัดขวางการทำงานของสัญญาณดิจิทัล และ 5) ฟิล์มมัลติเลเยอร์ ที่ช่วยปกป้องผู้โดยสาร และวัสดุภายในรถจากรังสี UV และรังสีอินฟราเรดได้ดีกว่าแบบอื่นๆ
  • ฟิล์มกันความร้อนรถยนต์ เป็นฟิล์มที่มีคุณสมบัติช่วยป้องกันความร้อน ป้องกันรังสี UV จากแสงแดดที่เข้ามาในรถ ช่วยให้ภายในรถมีอุณหภูมิไม่สูงจนเกินไป ซึ่งมีเนื้อฟิล์มหลายแบบให้เลือก และสามารถเลือกฟิล์มแต่ละแบบให้เหมาะสมกับความต้องการได้ ไปดูกันว่า ฟิล์มกันความร้อนสำหรับรถยนต์มีกี่แบบ ฟิล์มแต่ละแบบมีจุดเด่นอย่างไร กันความร้อนได้แค่ไหน และมีวิธีเลือกฟิล์มกันความร้อนอย่างไรให้คุ้มค่าที่สุด!

    ฟิล์มกันความร้อนรถยนต์ คืออะไร

    ฟิล์มกันความร้อนรถยนต์ หรือที่เรียกกันว่า ฟิล์มใสกันร้อนรถยนต์ เป็นฟิล์มที่มีลักษณะโปร่งใส มีความบาง เหนียว และเรียบ ทำให้แนบสนิทไปกับกระจกรถยนต์ได้ และจะใช้กาวในการยึดติด มีคุณสมบัติในการกรองแสงสว่างที่จะเข้ามาภายในรถ ป้องกันความร้อนจากแสงอาทิตย์ รังสียูวี และรังสีอินฟราเรด ทำหน้าที่ลดความร้อนภายในห้องโดยสารของรถยนต์ให้ไม่ร้อนจนเกินไป

    ฟิล์มกันความร้อนรถยนต์ มีกี่แบบ

    ฟิล์มกันความร้อนรถยนต์ มีกี่แบบ

    ฟิล์มใสกันร้อนรถยนต์แต่ละประเภทมีคุณสมบัติ และจุดเด่นที่แตกต่างกัน ดังนี้

    1. ฟิล์มกันความร้อนรถยนต์แบบย้อมสี

    ฟิล์มแบบย้อมสี เป็นฟิล์มรถยนต์กันความร้อน ที่ปัจจุบันไม่ได้รับความนิยมแล้ว เพราะเป็นฟิล์มที่นำพลาสติกไปย้อมสีดำเท่านั้น สามารถช่วยลดแสงสว่างจากดวงอาทิตย์ หรือแสงสว่างอื่นๆ ได้ แต่ประสิทธิภาพในการกันความร้อนต่ำ เหมาะกับคนที่มีงบประมาณไม่มาก หรืออยากติดฟิล์มกันร้อนรถยนต์แค่เพียงชั่วคราวเท่านั้น

    คุณสมบัติ

    • ป้องกันแสงสว่างที่ส่องเข้ามาในรถได้ โดยสามารถป้องกันได้มากน้อยตามความเข้มของฟิล์ม
    • ป้องกันรังสีอินฟราเรด (IR) ที่เป็นรังสีความร้อน ได้แค่ประมาณ 5-10%
    • มีอายุการใช้งานที่สั้น ไม่เกิน 3 ปี

    จุดเด่น

    • เป็นฟิล์มกันความร้อนรถยนต์ที่มีราคาถูกกว่าแบบอื่นๆ
    • มีการสะท้อนแสงน้อย จึงไม่รบกวนทัศนวิสัยรถคันอื่น

    2. ฟิล์มกันความร้อนรถยนต์แบบฉาบไอโลหะ

    ฟิล์มใสกันร้อนรถยนต์แบบฉาบไอโลหะ หรือฟิล์มปรอท เป็นฟิล์มที่ก่อนหน้านี้นิยมใช้ติดกับกระจกอาคาร แต่หลังจากนั้นได้นำมาประยุกต์ใช้เป็นฟิล์มติดรถยนต์กันความร้อน เพราะเป็นฟิล์มที่กันร้อนให้กับรถยนต์ได้ดีมาก แต่มีการสะท้อนแสงสูงมากเช่นกัน จึงอาจทำให้รบกวนทัศนวิสัยในการขับขี่ของคนอื่นได้ ทั้งนี้ ฟิล์มปรอทเป็นแค่แผ่นพลาสติก PET ที่ฉาบไปด้วยอนุภาคของโลหะหลายชนิด ส่งผลให้มีความคล้ายกับกระจก สะท้อนแสงออกไปได้ดี จึงไม่ดูดซับความร้อน เป็นฟิล์มที่เหมาะกับรถที่ต้องเจอความร้อนเป็นประจำ เพราะฟิล์มจะช่วยให้ไม่มีความร้อนสะสม และรถจะมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น

    คุณสมบัติ

    • ป้องกันรังสี UV ได้ถึง 99%
    • ป้องกันรังสีอินฟราเรดได้สูงกว่า 80%
    • มีค่าสะท้อนแสงอยู่ที่ 10-40% ขึ้นอยู่กับความเข้มที่เลือก
    • มีอายุการใช้งานโดยเฉลี่ยที่ 5-7 ปี

    จุดเด่น

    • ป้องกันรังสีอินฟราเรดได้สูง
    • ให้ความเป็นส่วนตัว ด้านนอกทึบ แต่มองจากด้านในยังมองเห็นชัด 
    • ลดการสะสมความร้อนภายในห้องโดยสารได้ดี

    3. ฟิล์มกันความร้อนรถยนต์แบบเคลือบอนุภาคโลหะ

    ลักษณะของฟิล์มรถยนต์ใสกันร้อนแบบเคลือบอนุภาคโลหะ จะมีความคล้ายกับฟิล์มแบบฉาบโลหะ แต่เป็นการดึงเอาอนุภาคโลหะมาเคลือบไว้บนเนื้อฟิล์ม ทำให้ได้เนื้อฟิล์มที่บางกว่า และสะท้อนแสงได้น้อยกว่า รวมถึงยังมีเนื้อฟิล์มที่มีความใส ดูสวยงามกว่าอีกด้วย เหมาะมากกับรถที่มักเจอความร้อนในช่วงเวลากลางวัน เพราะช่วยลดความร้อนสะสมได้ อีกทั้งยังทำให้รถมีความเป็นส่วนตัว และทำให้รถมีการสะท้อนแสงน้อยลง

    คุณสมบัติ

    • ป้องกันรังสี UV ได้ถึง 99%
    • ป้องกันรังสีอินฟราเรดได้สูงกว่า 80%
    • มีอายุการใช้งานประมาณ 5-7 ปี

    จุดเด่น

    • ป้องกันรังสีอินฟราเรดได้สูงกว่าฟิล์มทั่วไป
    • ให้ความเป็นส่วนตัวสูง เพราะด้านนอกทึบ ส่วนด้านในยังเห็นทัศนวิสัยชัด
    • ช่วยให้ภายในห้องโดยสารอุณหภูมิลดลง

    4. ฟิล์มกันความร้อนรถยนต์แบบเซรามิค

    ฟิล์มกันความร้อนรถยนต์แบบเซรามิค เป็นฟิล์มที่แนะนำสำหรับคนที่ชอบใช้รถยนต์ในเวลากลางวัน หรือมักจอดรถกลางแดดบ่อย เพราะเป็นฟิล์มที่สามารถลดความร้อนสะสมภายในรถได้ เนื่องจากฟิล์มเซรามิคมีอนุภาคนาโนเซรามิกฝังเข้าไปในเนื้อฟิล์ม จึงสามารถป้องกันความร้อน และรังสียูวีได้อย่างมีประสิทธิภาพ  

    คุณสมบัติ

    • ป้องกันรังสี UVA และ UVB ได้ถึง 99%
    • ป้องกันรังสีอินฟราเรดได้สูงกว่า 80%
    • ไม่ขัดขวางการทำงานของสัญญาณดิจิทัลอย่าง Easy Pass, WiFi, Bluetooth, GPS และสัญญาณวิทยุ
    • มีอายุการใช้งานยาวนานถึง 10 ปีขึ้นไป

    จุดเด่น

    • ป้องกันรังสีอินฟราเรดได้ดี ทำให้อุณหภูมิภายในรถยนต์ลดลง
    • ฟิล์มด้านนอกทึบ แต่มองเห็นจากด้านในชัดเจน เพิ่มความเป็นส่วนตัว ไม่รบกวนทัศนวิสัยขณะขับรถ
    • ไม่รบกวนสัญญาณอิเล็กทรอนิกส์ สื่อสารได้ทุกอุปกรณ์

    5. ฟิล์มกันความร้อนรถยนต์มัลติเลเยอร์

    ฟิล์มติดรถยนต์แบบมัลติเลเยอร์ ผลิตจากการนำแผ่นโพลีเอสเตอร์ที่บางมากๆ มาซ้อนทับกันกว่า 200 ชั้น สูงกว่าฟิล์มทั่วๆ ซึ่งปกติจะซ้อนทับกันเพียง 5-9 ชั้นเท่านั้น จึงช่วยปกป้องผู้โดยสาร และวัสดุภายในรถจากรังสี UV ที่เป็นอันตรายต่อผิวหนัง และช่วยลดความร้อนจากรังสีอินฟราเรดได้ดี ทั้งยังช่วยลดแสงสะท้อน และแสงจ้าจากภายนอก ทำให้ระหว่างการขับขี่สบายตาขึ้น ช่วยป้องกันการซีดจางของวัสดุตกแต่งภายในรถ นอกจากนี้ ยังเป็นฟิล์มคุณภาพดี ไม่บดบังทัศนวิสัยในการขับขี่อีกด้วย

    คุณสมบัติ

    • ป้องกันรังสี UV ได้ถึง 99.99%
    • ป้องกันรังสีอินฟราเรดได้สูงกว่า 97%
    • มีอายุการใช้งานมากกว่า 10 ปี

    จุดเด่น

    • ช่วยสะท้อนรังสีได้ดีกว่าฟิล์มทั่วไปเพราะผลิตจากเทคโนโลยีเฉพาะ
    • ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้ผู้โดยสาร
    • ช่วยลดความร้อนภายในห้องโดยสารได้ดี จึงช่วยประหยัดพลังงานในการใช้แอร์
    • มีความปลอดภัย เสริมความแข็งแรงให้กระจก จึงช่วยป้องกันการแตกกระจายของกระจกเมื่อเกิดอุบัติเหตุ

    ขอแนะนำ 3M Crystalline ฟิล์มมัลติเลเยอร์ ด้วยคุณสมบัติ เข้มจากภายนอก แต่ชัดเจนจากภายใน ผลิตด้วย เทคโนโลยีการผลิตแบบ ‘มัลติเลเยอร์ ออฟติคอล ฟิล์ม’ สิทธิบัตรของ 3M ที่ใครก็ลอกเลียนแบบไม่ได้  ช่วยสะท้อนรังสี UV ได้ถึง 99.99% ช่วยสะท้อนรังสีอินฟราเรด (IR) ได้สูงกว่า 97% มีค่าเอสพีเอฟสูงกว่า 1,000 หรือ 30 เท่าของครีมกันแดดเกรดสูงทั่วไป ได้รับการรับรองจากสถาบันมะเร็งผิวหนังแห่งสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ ยังช่วยยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ภายในรถอีกด้วย 

    วิธีเลือกฟิล์มกันความร้อนรถยนต์

    วิธีเลือกฟิล์มกันความร้อนรถยนต์

    เมื่อได้ทราบถึงความแตกต่างของคุณสมบัติ และจุดเด่นของฟิล์มกันความร้อนรถยนต์แต่ละประเภทกันไปแล้ว มาดูวิธีเลือกฟิล์มกันร้อนรถยนต์ให้คุ้มค่าและมีประสิทธิภาพมากที่สุดกัน!

    • การป้องกันความร้อน การเลือกฟิล์มติดรถยนต์กันความร้อน ควรเลือกจากคุณสมบัติการป้องกันรังสีอินฟราเรด เพราะเป็นปัจจัยที่จะช่วยลดความร้อนสะสม รวมถึงอุณหภูมิภายในรถยนต์ได้
    • การป้องกันรังสี UV เพราะรังสี UV เป็นอันตรายต่อผิวหนัง ซึ่งเป็นต้นเหตุของโรคมะเร็งผิวหนัง ทั้งยังทำให้อุปกรณ์ภายในรถเสื่อมสภาพอีกด้วย
    • ช่วงเวลาที่ใช้รถ หากเป็นคนที่ใช้รถในตอนกลางวันมากกว่า การเลือกฟิล์มรถยนต์กันความร้อนที่มีความทึบ ก็จะช่วยป้องกันแสงสว่าง รังสีความร้อน และรังสี UV ได้มากกว่า แต่ถ้าหากเป็นคนที่ใช้รถยนต์ในตอนกลางคืน ควรเลือกฟิล์มกันความร้อนรถยนต์ที่ด้านนอกดำทึบ แต่ด้านในสว่าง มองเห็นถนนได้ชัดเจน เช่น ฟิล์มเซรามิค เพราะแม้จะมีราคาสูง แต่ก็คุ้มค่า แถมยังช่วยให้การขับขี่ปลอดภัย 
    • ระยะเวลาที่อยู่ในรถ การอยู่ในรถนานๆ ในตอนกลางวัน อาจทำให้รู้สึกร้อนได้ จึงควรเลือกฟิล์มที่ช่วยป้องกันรังสีอินฟราเรด รังสี UV และเลือกฟิล์มที่มีอายุการใช้งานนานอย่างฟิล์มเซรามิค 
    • ความเป็นส่วนตัว ฟิล์มที่ให้ความเป็นส่วนตัวมีหลายประเภท ทั้งฟิล์มแบบเซรามิค แบบฉาบไอโลหะ และแบบเคลือบไอโลหะ แต่ฟิล์มเซรามิคจะมีการสะท้อนแสงน้อยที่สุด ทำให้ไม่รบกวนรถคันอื่นๆ

    สรุป

    ฟิล์มกันความร้อนรถยนต์ เป็นฟิล์มที่มีลักษณะโปร่งใส มีความบาง เหนียว และเรียบ เพื่อที่จะได้แนบสนิทไปกับกระจกรถยนต์ มีคุณสมบัติในการป้องกันความร้อนจากแสงอาทิตย์ รังสียูวี และรังสีอินฟราเรด ช่วยลดความร้อนภายในห้องโดยสาร ฟิล์มใสกันร้อนรถยนต์นั้นมีทั้งแบบย้อมสี เซรามิค ฉาบไอโลหะ และเคลือบโลหะ โดยฟิล์มกันร้อนรถยนต์ที่ดี ต้องมีคุณสมบัติป้องกันรังสีอินฟราเรด และรังสี UV ได้ดี แต่ก็ควรเลือกฟิล์มให้เหมาะกับการใช้งานด้วย ซึ่งควรพิจารณาปัจจัยต่างๆ เช่น ช่วงเวลาในการขับรถ ระยะเวลาในการอยู่ในรถ ความเป็นส่วนตัว หรือคุณสมบัติในการกันความร้อน เป็นต้น
    ทั้งนี้ ปัจจัยที่ควรนำมาพิจารณาก่อนเลือกติดฟิล์มข้อที่สำคัญที่สุด คือการเลือกฟิล์มกันความร้อนรถยนต์ที่มีคุณภาพ ที่มาพร้อมกับคุณสมบัติครบครันทั้งหมดที่กล่าวมาอย่างฟิล์ม 3M ที่มี SPMS-EST เป็นตัวแทนจำหน่ายเพียงหนึ่งเดียวในประเทศไทย มาพร้อมกับบริการติดตั้งโดยช่างมืออาชีพ ที่ได้รับการอบรมมาโดยเฉพาะ และยังมีการรับประกันคุณภาพสินค้า มั่นใจได้เลยว่าฟิล์มกันร้อนรถยนต์ที่ติดไปนั้นคุ้มค่าแน่นอน

    แชร์บทความนี้