อัปเดต! เปลี่ยนฟิล์มรถยนต์ราคาเท่าไร? พร้อมเทคนิคเลือกฟิล์มให้คุ้มค่า

อัปเดต! เปลี่ยนฟิล์มรถยนต์ราคาเท่าไร? พร้อมเทคนิคเลือกฟิล์มให้คุ้มค่า
คนรักรถควรรู้!
  • ราคาการเปลี่ยนฟิล์มรถยนต์สำหรับฟิล์มดำธรรมดาจะเริ่มที่ประมาณ 1,000-2,000 บาท ฟิล์มปรอทเริ่มที่ประมาณ 3,500-5,000 บาท ฟิล์มนาโนเริ่มที่ประมาณ 4,000-6,000 บาท และฟิล์มเซรามิกเริ่มที่ประมาณ 9,000-14,000
  • บาทปัจจัยที่มีผลต่อราคาฟิล์มรถยนต์ประกอบด้วย ประเภทของฟิล์ม จำนวนบานกระจกและขนาดของรถยนต์ แบรนด์ของฟิล์มที่เลือกใช้ รวมถึงบริการติดตั้งจากร้านและการรับประกันคุณภาพฟิล์ม
  • วิธีเลือกฟิล์มให้เหมาะกับการใช้งาน ควรพิจารณาจาก 3 ปัจจัยหลัก ได้แก่ คุณสมบัติของฟิล์มประเภทต่างๆ ความเข้มข้นของการกรองแสง และการเลือกฟิล์มที่มีมาตรฐานรองรับ
  • การเปลี่ยนฟิล์มรถยนต์ช่วยรักษาความปลอดภัยในการขับขี่ ทำให้มองเห็นสิ่งต่างๆ รอบตัวได้ชัดเจนในทุกสภาพอากาศ ช่วยกรองแสงและความร้อนเพื่อลดภาระการทำงานของแอร์ และช่วยปกป้องสีรถและเบาะภายในห้องโดยสารไม่ให้ซีดจาง

จะเลือกเปลี่ยนฟิล์มติดรถยนต์ทั้งที ควรเลือกเปลี่ยนฟิล์มที่มีคุณภาพ จะทำให้ฟิล์มมีประสิทธิภาพการใช้งานที่ยาวนานและสามารถปกป้องรถจากแสงแดดและมลภาวะต่างๆ ได้เป็นอย่างดี ซึ่งการเลือกฟิล์มติดรถยนต์นั้น ต้องคำนึงถึงปัจจัยหลายๆ อย่าง เพื่อให้คุ้มค่ามากที่สุด ในบทความนี้จะพามาดูว่า การเปลี่ยนฟิล์มรถยนต์มีราคาเริ่มต้นเท่าไร? อะไรคือปัจจัยที่มีผลต่อราคาฟิล์มรถยนต์ รวมถึงวิธีเลือกฟิล์มให้คุ้มค่า คุ้มราคา และเหมาะกับการใช้งานได้อย่างไร ไปดูกัน!

เปลี่ยนฟิล์มรถยนต์ราคาประมาณเท่าไร?

เปลี่ยนฟิล์มรถยนต์ราคาประมาณเท่าไร?

โดยทั่วไปแล้ว ราคาเปลี่ยนฟิล์มรถยนต์ขึ้นอยู่กับประเภทของฟิล์มที่เลือกติดตั้ง เช่น ฟิล์มดำธรรมดา ราคาเริ่มต้นประมาณ 1,000-2,000 บาท ฟิล์มปรอทหรือฟิล์มฉาบโลหะ ราคาเริ่มต้นประมาณ 3,500-5,000 บาท ฟิล์มนาโน ราคาเริ่มต้นประมาณ 4,000-6,000 บาท และฟิล์มเซรามิก ราคาเริ่มต้นประมาณ 9,000-14,000 บาท ทั้งนี้ราคาอาจแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อ ประเภทรถยนต์ และสถานที่ติดตั้ง

ปัจจัยที่มีผลต่อราคาฟิล์มรถยนต์

ปัจจัยที่มีผลต่อราคาเปลี่ยนฟิล์มรถยนต์สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นความต้องการของผู้ใช้รถ หรือคุณสมบัติของฟิล์มแต่ละประเภท สามารถสรุปได้ดังนี้

ประเภทของฟิล์มกรองแสง

ฟิล์มกรองแสงมีคุณสมบัติและเทคโนโลยีที่ในการป้องกันแสงแดดและความร้อนต่างกัน ทำให้เวลาเปลี่ยนฟิล์มกระจกรถยนต์แต่ละครั้ง จึงมีราคาต่างกัน เช่น ฟิล์มนาโนและฟิล์มเซรามิก สามารถกันความร้อนและสะท้อนความร้อนได้มากกว่า รวมถึงเนื้อฟิล์มไม่สะท้อนแสง และไม่รบกวนสัญญาณ GPS หรือสัญญาณมือถือภายในรถ ทำให้ฟิล์มประเภทนี้มีราคาสูงกว่าฟิล์มประเภทอื่นๆ 

ขนาดและจำนวนบานกระจก

ขนาดและจำนวนบานกระจก

กระจกรถรถยนต์แต่ละแบรนด์มีความแตกต่างกัน ทั้งจำนวนกระจก ขนาด ความโค้งของกระจก องศาลาดเอียง และกระจกบานหน้าที่มีเทคโนโลยีและเซนเซอร์ต่างๆ ที่ต้องใช้ความชำนาญและความระมัดระวังในการติดตั้ง รวมถึงเลือกฟิล์มให้เหมาะสมเพื่อไม่ให้รบกวนการทำงานของระบบต่างๆ ทำให้การเปลี่ยนฟิล์มรถยนต์กระจกบานหน้ามีราคาสูง

แบรนด์และคุณภาพของฟิล์ม

แบรนด์ที่มีชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือ มักมาพร้อมการรับประกันคุณภาพของฟิล์ม เช่น ประสิทธิภาพในการกรองแสงและความร้อน อายุการใช้งานที่ยาวนาน และการติดตั้งที่ได้มาตรฐาน ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ส่งผลต่อราคาเปลี่ยนฟิล์มรถยนต์ ที่ทำให้อาจมีค่าใช้จ่ายการติดตั้งที่สูงกว่าปกติ

ค่าแรงติดตั้งและบริการหลังการขาย

ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนฟิล์มรอบคัน หรือเปลี่ยนฟิล์มเฉพาะบานหน้ารถ มักมีราคาต่างกัน โดยการเลือกช่างที่มีความชำนาญและเทคนิคเฉพาะ จะช่วยให้การติดฟิล์มมีความแม่นยำและไม่รบกวนการทำงานของระบบต่างๆ ภายในรถ นอกจากนี้ การเลือกติดตั้งกับบริษัทหรือร้านที่มีการรับประกันคุณภาพ จะทำให้มั่นใจได้ในคุณภาพและการบริการหลังการติดตั้ง

วิธีเลือกฟิล์มให้เหมาะกับการใช้งาน

วิธีเลือกฟิล์มให้เหมาะกับการใช้งาน

เมื่อทราบราคาเปลี่ยนฟิล์มรถยนต์และปัจจัยที่ส่งผลต่อค่าใช้จ่ายแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการเลือกฟิล์มให้เหมาะสมกับการใช้งาน เพื่อให้ได้ฟิล์มที่มีคุณภาพและตอบโจทย์มากที่สุด ตามแนวทางดังนี้

1. เปรียบเทียบฟิล์มประเภทต่างๆ

ฟิล์มติดรถยนต์ในปัจจุบัน แบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก ซึ่งแตกต่างกันในเรื่องคุณภาพและการใช้งาน เช่น ฟิล์มธรรมดา มีราคาถูกที่สุด มีสีเข้มพอประมาณ ช่วยลดแสงจ้าและกันแดดได้เพียงเล็กน้อย แต่สีซีดจางและเสื่อมสภาพง่ายเมื่อโดนแดดจัด ทำให้มีอายุการใช้งานสั้น ฟิล์มปรอท ราคาปานกลาง เคลือบด้วยชั้นโลหะทำให้สะท้อนความร้อนได้ดี แต่มีเงาสะท้อนสูงที่อาจรบกวนสายตาผู้ขับขี่ และฟิล์มเซรามิก มีราคาสูงกว่าฟิล์ม 2 แบบก่อนหน้าเล็กน้อย ช่วยกันความร้อนได้ดี และเนื้อฟิล์มไม่สะท้อนแสง ทำให้ไม่รบกวนสายตา

2. เลือกความเข้มของฟิล์มให้เหมาะสม

สามารถเลือกฟิล์มตามตำแหน่งของกระจกที่ต้องการติดได้ เช่น กระจกบานหน้า ควรเลือกฟิล์มที่มีความเข้ม 40% – 50% ซึ่งจะช่วยลดแสงจ้าและแสงสะท้อน เพื่อให้มองเห็นชัดเจนขณะขับรถ ทั้งในเวลากลางวันและเวลากลางคืน และกระจกบานข้างและกระจกหลัง สามารถใช้ฟิล์มเข้ม 60% – 80% เพื่อกันความร้อนจากแสงแดดและเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับผู้โดยสาร

3. เลือกฟิล์มที่มีมาตรฐานและการรับรอง

เลือกฟิล์มกรองแสงจากแบรนด์ที่มีมาตรฐานและความน่าเชื่อถือ โดยควรเป็นแบรนด์ที่ได้รับการรับรองสากล และสามารถตรวจสอบแหล่งผลิตและข้อมูลสินค้าได้อย่างชัดเจน เช่น มาตรฐาน ISO 9001, ANSI จากสหรัฐอเมริกา, ECE จากยุโรป และมาตรฐาน มอก. ของไทย พร้อมทั้งรับประกันคุณภาพเพื่อความมั่นใจในการใช้งานระยะยาว

ทำไมถึงควรเปลี่ยนฟิล์มรถยนต์?

ทำไมถึงควรเปลี่ยนฟิล์มรถยนต์?

เมื่อฟิล์มกรองแสงเจอกับอากาศร้อน มลพิษ และการใช้งานที่ยาวนาน อาจทำให้ฟิล์มเสื่อมสภาพ ไม่สามารถกรองแสงได้ดีเท่าที่ควร และทำให้ทัศนวิสัยการขับขี่ลดลง ดังนั้น ควรรีบเปลี่ยนเพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ ซึ่งสามารถสังเกตฟิล์มเสื่อมสภาพได้ตามวิธีดังนี้

ฟิล์มมีอายุการใช้งานเกิน 5-10 ปี

ฟิล์มรถยนต์จะมีอายุการใช้งานประมาณ 5-10 ปี หากใช้งานเป็นระยะเวลานานกว่านี้ ฟิล์มจะเริ่มเสื่อมสภาพ ส่งผลให้ประสิทธิภาพในการกรองแสงลดลงและความร้อนลดน้อยลง รวมถึงทำให้เกิดปัญหาทัศนวิสัยในการขับขี่ หากปล่อยไว้นานเกินไป ฟิล์มอาจหลุดลอกและอาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ

ฟิล์มเริ่มเปลี่ยนสี

สีฟิล์มซีดจาง สีอ่อนลง หรือเปลี่ยนจากฟิล์มสีเข้มกลายเป็นฟิล์มสีม่วง นั่นหมายความว่า ฟิล์มติดรถยนต์เริ่มเสื่อมสภาพ และไม่สามารถกันความร้อนได้อีกต่อไป จึงควรรีบเปลี่ยนทันที เพราะหากปล่อยไว้นานเกินไป จะทำให้แอร์หรือเครื่องยนต์ทำงานหนัก เพื่อให้อุณหภูมิในห้องโดยสารเย็นขึ้น และทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันมากกว่าเดิม

ฟิล์มเริ่มมีฟองอากาศหรือมีรอยย่น

อีกหนึ่งวิธีสังเกตง่ายๆ คือ เมื่อฟิล์มเริ่มมีฟองอากาศหรือรอยย่นที่มองเห็นได้ชัดเจน แสดงว่าฟิล์มเริ่มมีอาการเสื่อมสภาพ ที่อาจทำให้ผู้ขับขี่มองเห็นไม่ชัดเจนและเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุได้ ถ้าปล่อยไว้นานๆ แล้วไม่เปลี่ยนสักที ก็จะทำให้ฟิล์มหลุดลอกและทำให้กระจกรถเกิดความเสียหายมากกว่าเดิม

ฟิล์มเริ่มมีภาพซ้อนและภาพมัว

ฟิล์มเริ่มมีภาพซ้อนและภาพมัว

เมื่อฟิล์มเริ่มมีภาพซ้อนหรือภาพมัวในขณะขับขี่เป็นสัญญาณบ่งบอกว่า ฟิล์มกำลังเสื่อมสภาพ หรือฟิล์มมีความผิดปกติ หากปล่อยให้ฟิล์มเกิดภาพมัว อาจทำให้ผู้ขับขี่ไม่สามารถมองเห็นสิ่งต่างๆ บนท้องถนนได้ชัดเจน ทั้งในเวลากลางวันและกลางคืน เช่น มองเห็นเส้นถนน รถคันข้างหน้า หรือสัญญาณไฟจราจร ที่อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุในการขับขี่

อุณหภูมิภายในรถร้อนกว่าปกติ

หากรู้สึกอุณหภูมิภายในห้องโดยสารร้อนกว่าปกติ ไม่ว่าจะเปิดแอร์เท่าไหร่ก็ยังไม่เย็นเท่าเดิม อาจเกิดจากปัญหาฟิล์มเสื่อมสภาพและไม่สามารถกรองแสงหรือความร้อนได้ดีเท่าที่ควร ทำให้ความร้อนจากแสงแดดทะลุเข้ามาได้มากขึ้น หากปล่อยไว้นานๆ จะทำให้เครื่องยนต์ใช้พลังงานหนักมากขึ้นและสิ้นเปลืองน้ำมัน เพื่อให้ระบบแอร์ภายในรถกลับมาเย็นเท่าเดิม

ภายในรถเริ่มมีกลิ่นอับหรือกลิ่นเหม็น

ภายในรถเริ่มมีกลิ่นอับหรือกลิ่นเหม็นที่ไม่ได้มาจากห้องเครื่องยนต์ ระบบแอร์ หรือเบาะ เป็นไปได้ว่า กลิ่นเหม็นนั้นมาจากกาวของฟิล์มรถยนต์ที่กำลังเสื่อมสภาพ และเมื่อเจอกับความชื้นภายในห้องโดยสาร ยิ่งทำให้กาวเกิดกลิ่นรุนแรงและแพร่กระจายไปทั่วห้องโดยสาร หากปล่อยไว้โดยไม่เปลี่ยนฟิล์ม อาจทำให้กาวเสื่อมมากขึ้น จนทำให้กระจกรถยนต์เสียหาย

ติดฟิล์มรถยนต์ กับ SPMS-EST ดีกว่าอย่างไร

ติดฟิล์มรถยนต์ กับ SPMS-EST ดีกว่าอย่างไร

การเลือกติดฟิล์มกับร้านที่รับรองมาตรฐานจาก 3M ช่วยเพิ่มความมั่นใจได้ว่า ฟิล์มจะถูกติดตั้งโดยผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ และฟิล์มที่ติดตั้งมีคุณภาพสูง ได้รับมาตรฐานสากล ซึ่งสามารถกรองแสงได้ดี ช่วยกันความร้อน และป้องกันรังสี UV ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ อีกทั้งราคาติดฟิล์ม 3M เริ่มต้นที่ประมาณ 4,000 บาท ขึ้นอยู่กับขนาดของรถและประเภทฟิล์มที่เลือกใช้

ขอแนะนำให้คุณเลือกติดฟิล์มจากร้านตัวแทนที่ได้รับการรับรองจาก 3M ใกล้บ้านคุณ เพื่อความสะดวกและรวดเร็ว ซึ่งปัจจุบันร้านตัวแทนจำหน่ายของ 3M มีมากมายและครอบคลุมทุกพื้นที่ในประเทศไทย ทั้งในกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมถึงต่างจังหวัดด้วย คุณสามารถตรวจสอบร้านตัวแทน 3M ติดฟิล์มใกล้บ้านได้จากเว็บไซต์หลักของ SPMS-EST.com

สรุป

เมื่อใช้รถยนต์ไปนานๆ ฟิล์มกรองแสงที่ติดอยู่จะเริ่มเสื่อมสภาพจากการเผชิญกับแสงแดด ความร้อน และมลพิษต่างๆ ที่ทำให้ประสิทธิภาพในการกรองแสงและป้องกันความร้อนลดลงได้ ดังนั้นก่อนการติดฟิล์มรถใหม่หรือรถเก่า ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการติดฟิล์มกรองแสงและราคาให้ละเอียด เพื่อให้ได้ฟิล์มที่ตรงกับความต้องการมากที่สุด เพราะการเปลี่ยนฟิล์มรถยนต์จะมีราคาต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ประเภทของฟิล์ม ขนาดหรือรุ่นของรถยนต์ รวมถึงการบริการและการรับประกันคุณภาพจากร้านติดฟิล์มที่ให้บริการด้วย

หากมองหาร้านรับติดฟิล์มรถยนต์ที่มีคุณภาพ ก็สามารถนำรถของคุณเข้ามาใช้บริการของ SPMS-EST ได้ที่ร้านตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานจาก 3M พร้อมทีมช่างผู้เชี่ยวชาญ ที่ให้บริการด้วยความสะดวกและรวดเร็ว และยังมีการรับประกันคุณภาพในการติดตั้งอีกด้วย

แชร์บทความนี้