ฟิล์มใสกันรอย 3M เทคโนโลยีสุดล้ำ กับคุณสมบัติช่วยปกป้องสีรถยนต์

ฟิล์มใสกันรอย 3M เทคโนโลยีสุดล้ำ กับคุณสมบัติช่วยปกป้องสีรถยนต์
คนรักรถควรรู้!
  • ฟิล์มใสกันรอยรถยนต์ เป็นนวัตกรรมการปกป้องสีรถ ที่ผลิตจากวัสดุเทอร์โมพลาสติกโพลียูรีเทนไฮบริด และเทอร์โมพลาสติกโพลียูรีเทน มีความหนาประมาณ 160 – 200 ไมครอน
  • ฟิล์มใสกันรอยรถยนต์มี 3 ประเภท คือฟิล์มประเภท TPU เป็นฟิล์มที่มีความหนาที่สุดและมีคุณภาพสูงสุด ในขณะที่ฟิล์ม TPH มีความหนาระดับกลาง ราคาไม่แพง ติดตั้งง่าย ส่วนฟิล์ม PVC แม้จะราคาถูกที่สุด แต่มีข้อจำกัดมาก ทั้งความบาง การติดตั้งยาก และอายุการใช้งานสั้น
  • 3M Paint Protection Film มีคุณสมบัติที่โดดเด่นคือ มีเทคโนโลยีการซ่อมแซมตัวเอง ทนทานต่อทุกรอยขีดข่วน ช่วยปกป้องการเกาะของน้ำ จึงช่วยให้ทำความสะอาดง่าย ทั้งยังช่วยคงสีรถเดิมไว้ได้ยาวนานอีกด้วย
  • เมื่อเทียบฟิล์มใสกันรอยรถยนต์กับการเคลือบเซรามิก ฟิล์มกันรอยมีความหนาและประสิทธิภาพการป้องกันที่มากกว่า ป้องกันได้ทั้งรอยขีดข่วน สะเก็ดหิน และคราบฝังลึก มีอายุการใช้งานที่นานกว่าเมื่อเทียบกับการเคลือบเซรามิก

ฟิล์มกันรอยได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะมีคุณสมบัติช่วยปกป้องรถได้อย่างมีประสิทธิภาพกว่าฟิล์มทั่วไป มาติดฟิล์มใสกันรอยรถยนต์กับ 3M เพื่อป้องกันผิวรถยนต์ รักษาสีของรถยนต์ให้สวยงามดังเดิม และไม่ให้ซีดเหลืองจากสภาวะต่างๆ พร้อมช่วยยืดอายุการใช้งานยาวนานถึง 7 ปี 

ฟิล์มใสกันรอย คืออะไร

ฟิล์มใสกันรอย คืออะไร

ฟิล์มใสกันรอยรถยนต์ (Paint Protection Film – PPF) เป็นนวัตกรรมการปกป้องสีรถ ที่ช่วยรักษาความใหม่ของสีรถให้คงอยู่ตลอดเวลา ซึ่งผลิตจากวัสดุเทอร์โมพลาสติกโพลียูรีเทนไฮบริด (TPH) และเทอร์โมพลาสติกโพลียูรีเทน (TPU) ที่มีคุณสมบัติโดดเด่นคือมีความโปร่งใส ยืดหยุ่นสูง และมีความเหนียวทนทาน โดยมีความหนาของเนื้อฟิล์มประมาณ 160 – 200 ไมครอน ทำให้สามารถปกป้องสีรถจากความเสียหาย ที่อาจเกิดจากสะเก็ดหิน หรือยางมะตอย ที่กระเด็นมากระทบตัวถังรถได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ประเภทของฟิล์มใสกันรอย

ฟิล์มใสกันรอยรถยนต์แบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก โดยแต่ละประเภทมีคุณสมบัติ ข้อดี-ข้อเสีย ที่ต่างกัน ดังนี้

  1. ฟิล์ม TPU (Thermoplastic Polyurethane) มีความหนาที่สุด และมีความใสสูง โดดเด่นด้วยความเงางาม ความเหนียว และความยืดหยุ่นสูง พร้อมเทคโนโลยี Self-Healing ที่สามารถซ่อมแซมรอยขีดข่วนได้เอง ทำให้มีอายุการใช้งานยาวนานที่สุด
  2. ฟิล์ม TPH (Thermoplastics Polyurethane Hybrid) เป็นฟิล์มที่มีความหนาระดับกลาง เกิดจากการผสมระหว่าง PVC และ TPU มีจุดเด่นที่ราคาไม่แพง ติดตั้งง่าย เข้ากับความโค้งของตัวรถได้ดี และมีเทคโนโลยี Self-Healing เช่นกัน
  3. ฟิล์ม PVC (Polyvinylchloride) เป็นฟิล์มที่บางที่สุด มีความยืดหยุ่นต่ำ ติดตั้งยาก และมีอายุการใช้งานสั้น มักเกิดปัญหาสีซีดเหลือง และแตกลายงาเมื่อโดนแดดนานๆ แม้จะมีราคาถูกที่สุด แต่ด้วยข้อจำกัดหลายอย่าง จึงไม่เป็นที่นิยมนำมาใช้เป็นฟิล์มกันรอยรถยนต์
ฟิล์มใสกันรอย VS. เคลือบเซรามิก

ฟิล์มใสกันรอย VS. เคลือบเซรามิก

การเคลือบเซรามิกและการติดฟิล์มใสกันรอยรถยนต์ เป็นวิธีที่ช่วยปกป้องสีรถเหมือนกัน แต่มีความแตกต่างกันอีกหลายด้าน ดังนี้

ลักษณะการปกป้อง

  • ฟิล์มใสกันรอย: มีความหนา 180 – 250 ไมครอน และมีคุณสมบัติ Self-Healing
  • เคลือบเซรามิก: เป็นน้ำยาพิเศษที่เคลือบผิวรถให้เรียบเนียน มีความหนาเพียง 10 ไมครอน 

ประสิทธิภาพการป้องกัน

  • ฟิล์มใสกันรอย: ป้องกันได้ครอบคลุมมากกว่า ทั้งรอยขีดข่วน และสะเก็ดหิน รวมถึงป้องกันคราบฝังลึก
  • เคลือบเซรามิก: ช่วยชะลอการเกิดคราบฝังแน่น ทำความสะอาดง่าย แต่ไม่สามารถป้องกันสะเก็ดหินได้

อายุการใช้งาน

  • ฟิล์มใสกันรอย: 3 – 5 ปี (ขึ้นอยู่กับชนิดของฟิล์ม) และต้องลอกออกเมื่อครบกำหนด
  • เคลือบเซรามิก: 1 – 3 ปี และต้อง Re-Coat เมื่อครบกำหนด
คุณสมบัติพิเศษของ 3M Paint Protection Film

คุณสมบัติพิเศษของ 3M Paint Protection Film 

หากจะเลือกติดฟิล์มใสกันรอย เลือก 3M Paint Protection Film เพราะมีคุณสมบัติที่แตกต่าง ดังนี้ 

เทคโนโลยีการซ่อมแซมตัวเอง

ฟิล์มใสกันรอยรถยนต์คุณภาพสูงจะมาพร้อมนวัตกรรมเทคโนโลยี Self-Healing ที่ช่วยให้ฟิล์มสามารถซ่อมแซมตัวเองได้โดยอัตโนมัติเมื่อได้รับความร้อน ดังนั้น เมื่อเกิดรอยขีดข่วนเล็กน้อยบนผิวฟิล์ม รอยเหล่านั้นจะค่อยๆ หายไปเอง จึงช่วยให้รถยนต์กลับมามีความเงางามสวยงามเหมือนเดิมได้ โดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนหรือซ่อมแซมฟิล์มใหม่

ทนทานต่อทุกการขีดข่วน

ฟิล์มใสกันรอยรถยนต์ได้รับการออกแบบให้มีความหนาและความแข็งแรงทนทานเป็นพิเศษ เพื่อทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันสีและตัวถังรถจากความเสียหายหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นรอยขนแมว รอยขีดข่วนจากเล็บสัตว์ สะเก็ดยางมะตอย หรือสะเก็ดหินที่กระเด็นมาจากท้องถนน รวมถึงสามารถลดความเสียหายจากอุบัติเหตุเฉี่ยวชนเล็กน้อย ทำให้สามารถรักษาสภาพความสวยงามของรถได้อย่างมีประสิทธิภาพในระยะยาว

ทำความสะอาดง่าย

ฟิล์มใสกันรอยรถยนต์ช่วยปกป้องและเพิ่มความสะดวกในการดูแลรักษารถยนต์ ด้วยคุณสมบัติที่ช่วยป้องกันคราบสกปรกต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นมูลนก ฝุ่นควัน ฝุ่นละออง หรือเขม่าไอเสียรถยนต์ ไม่ให้เกาะติดและฝังลึกเข้าไปในชั้นสีรถ นอกจากนี้ยังช่วยให้การทำความสะอาดรถเป็นเรื่องง่าย เนื่องจากสามารถใช้น้ำยาทำความสะอาดได้อย่างปลอดภัย โดยไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นผิวของตัวรถ ทำให้การดูแลรักษาความสะอาดรถเป็นเรื่องที่สะดวกและไม่ยุ่งยาก

ช่วยให้คงสีเดิมของรถไว้

สภาพอากาศที่ร้อนมากๆ ในประเทศไทย การป้องกันรถยนต์จากแสงแดดและรังสี UV ถือเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากการสัมผัสแสงแดดโดยตรงอย่างต่อเนื่องอาจทำให้สีรถซีดจางและหลุดลอกได้เร็วกว่าปกติ การติดฟิล์มใสกันรอยที่มีคุณภาพสูง ทั้งในด้านความหนา ความเงา และความใส จึงเป็นทางเลือกที่มีประสิทธิภาพในการปกป้องสีรถจากแสงแดดและรังสี UV ช่วยรักษาความใหม่และความสวยงามของสีรถให้คงอยู่ได้ยาวนาน ทำให้รถดูใหม่อยู่เสมอแม้จะต้องจอดกลางแจ้งเป็นประจำ

ปกป้องการเกาะของน้ำ

ฟิล์มใสกันรอยรถยนต์ให้ข้อได้เปรียบในการปกป้องสีรถจากความเสียหายที่เกิดจากน้ำ ด้วยคุณสมบัติที่ช่วยลดการเกาะติดของคราบน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่เพียงแต่ทำให้การทำความสะอาดรถเป็นเรื่องง่าย แต่ยังช่วยป้องกันการกัดกร่อนที่อาจทำให้สีรถเสียหายหรือหลุดลอก ทำให้สามารถรักษาสภาพสีรถให้สวยงามได้ยาวนานกว่ารถที่ไม่ได้ติดฟิล์มกันรอย

เปรียบเทียบคุณสมบัติ Series 200 Gloss กับ Series 100 Gloss 

คุณสมบัติฟิล์มSeries 200 GlossSeries 150 GlossSeries 100 Gloss
ชนิดฟิล์มโพลียูรีเทนโพลียูรีเทนโพลียูรีเทน
อายุการใช้งาน10 ปี10 ปี7 ปี
ความหนา (รวมกาว)200 ไมครอน190 ไมครอน190 ไมครอน
ความหนาชั้นไลน์นอร์3 มิล2.9 มิล2.9 มิล
ฟิล์มป้องกันผิว Cap Sheetมีมีมี
ความใส ความเงางามเงาและใสมากเงาและใสมากเงามาก
ความยืดหยุ่นดีดีมากที่สุดดีมาก
การป้องกันรอยขีดข่วน สะเก็ดหินดีมากดีมากดีมาก
การคืนสภาพเมื่อเกิดรอยขีดข่วน (Self-Healing)ดีมากดีดีมาก
การขับไล่น้ำ Hydrophobicดีมากดีมากดี
การป้องกันรังสี UVดีมากดีดีมาก
อัตราการเปลี่ยนแปลงสีของฟิล์มน้อยมากกี่สุดน้อยมากน้อย
การรับประกัน (ผิวฟิล์มเสื่อมสภาพ แตก เกิดฟองอากาศ หรือเปลี่ยนสีเกินมาตรฐาน)7 ปี7 ปี5 ปี
ขั้นตอนการเตรียมพื้นผิวสำหรับติดตั้งฟิล์มใสกันรอย

ขั้นตอนการเตรียมพื้นผิวสำหรับติดตั้งฟิล์มใสกันรอย 

สำหรับขั้นตอนการเตรียมพื้นผิวก่อนติดตั้งฟิล์มใสกันรอยรถยนต์ มีดังนี้

  1. ล้างทำความสะอาดพื้นผิวรถให้ทั่ว รวมถึงขอบและรอยต่อระหว่างชิ้นส่วน 
  2. จากนั้นทำให้พื้นผิวแห้งสนิท
  3. เริ่มกำจัดคราบฝังแน่นและน้ำยาเคลือบผิวเดิมออกให้หมด
  4. ทำความสะอาดเพิ่มเติมด้วยการใช้น้ำยาขจัดคราบฝุ่นที่ยึดเกาะ 
  5. เช็ดทำความสะอาดด้วยผ้าที่ไม่มีสารหรือใยขัดอย่างผ้าไมโครไฟเบอร์ 
  6. ตรวจสอบความเรียบร้อยและคราบต่างๆ อีกครั้ง
ขั้นตอนการติดตั้งฟิล์มใสกันรอย

ขั้นตอนการติดตั้งฟิล์มใสกันรอย 

การติดตั้งฟิล์มใสกันรอยจะต้องทำในห้องปิดที่สะอาด มีแสงสว่างเพียงพอ ควบคุมอุณหภูมิให้อยู่ระหว่าง 21 – 26 องศาเซลเซียส และมีระบบปรับอากาศที่เหมาะสม โดยขั้นตอนการติดตั้งฟิล์มใสกันรอยรถยนต์จะมีดังนี้

  1. ใช้น้ำยาสูตรน้ำผสมแชมพู เพื่อลดแรงยึดเกาะและปรับตำแหน่งฟิล์มได้ง่าย
  2. ใช้แอลกอฮอล์ล้างคราบน้ำยาแชมพูที่ขอบฟิล์มเพื่อคืนแรงยึดเกาะ
  3. หากจะแก้ไขงาน ให้ทำทันทีหลังรีดฟิล์มแต่ละส่วน ไม่ควรรอให้กาวแห้งก่อน
  4. หากไม่มีอะไรแก้ไข ก็รอให้กาวเซตตัวอย่างน้อย 15 นาที 
  5. จบงานด้วยการเช็ดพื้นผิวหน้าฟิล์มอย่างอ่อนโยน

ติดฟิล์มใสกันรอยกับ SPMS-EST ดีกว่าอย่างไร

3M Paint Protection Film ฟิล์มใสป้องกันรอยระดับพรีเมียม ที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อปกป้องสีและผิวรถยนต์จากความเสียหายหลากหลายรูปแบบ มีคุณสมบัติโดดเด่นด้วยความใสเงางาม ที่ช่วยรักษาความสวยงามเดิมของสีรถ และมาพร้อม Cap Sheet สำหรับปกป้องผิวหน้าฟิล์มก่อนการใช้งาน ด้วยคุณสมบัติการยึดเกาะที่ดีและความยืดหยุ่นสูง ทำให้ติดตั้งง่าย ไม่เกิดตำหนิ มาพร้อมอายุการใช้งานที่ยาวนานถึง 7 ปีโดยไม่เกิดการซีดเหลือง

เลือกติดฟิล์มใสกันรอยรถยนต์ 3M Paint Protection Film เลือกติดกับร้านตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับการรับรองมาตรฐานจาก 3M เพื่อความรวดเร็วในการติดตั้ง แนะนำให้เลือกติดฟิล์มใสกันรอยกับร้านตัวแทนสาขาใกล้บ้าน เพื่อความสะดวก ซึ่งปัจจุบัน ร้านตัวแทนจำหน่ายของ 3M มีกระจายครอบคลุมทุกพื้นที่ในประเทศไทย ทั้งกรุงเทพและปริมณฑล รวมถึงต่างจังหวัดด้วย สามารถตรวจสอบ 3M ฟิล์มใสกันรอย สาขาใกล้บ้านได้จากเว็บไซต์หลักของ SPMS-EST.com

สรุป

ฟิล์มใสกันรอยรถยนต์ เป็นนวัตกรรมการปกป้องสีรถ ที่ได้รับการพัฒนาจากวัสดุเทอร์โมพลาสติกโพลียูรีเทนไฮบริดและเทอร์โมพลาสติกโพลียูรีเทน เมื่อเปรียบเทียบกับการเคลือบเซรามิก จะเห็นได้ว่าฟิล์มกันรอยมีข้อได้เปรียบทั้งในด้านความหนาและประสิทธิภาพการป้องกัน สามารถปกป้องผิวรถได้จากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นรอยขีดข่วน สะเก็ดหิน หรือคราบฝังลึก นอกจากนี้ยังมีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่าการเคลือบเซรามิกอีกด้วย
อยากติดติดฟิล์มใสกันรอยรถยนต์ แนะนำให้เลือกใช้บริการจากร้านตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับการรับรองมาตรฐานจาก 3M ที่ครอบคลุมทั่วประเทศไทยทั้งในกรุงเทพ ปริมณฑล และต่างจังหวัด ทำให้ลูกค้าสามารถเลือกใช้บริการจากสาขาที่ใกล้บ้านได้อย่างสะดวก โดยสามารถตรวจสอบสาขาใกล้บ้านได้ที่เว็บไซต์ SPMS-EST.com

แชร์บทความนี้