อาการป่วยจากการขับรถนานๆ มีอะไรบ้าง ภัยเงียบใกล้ตัวที่ไม่ควรละเลย

คนรักรถควรรู้!

  • อาการป่วยจากการขับรถนานๆ มีอะไรบ้าง? เมารถ กล้ามเนื้อคออักเสบ ความเครียด ปวดหลังหรือปวดเมื่อยตามร่างกาย เกิดภาวะหลอดเลือดดำอุดตัน กระเพาะปัสสาวะอักเสบ พังผืดทับเส้นประสาทบริเวณข้อมือ และโรคเกี่ยวกับลำไส้
  • วิธีดูแลตัวเองเมื่อมีอาการ เริ่มจากจอดพักรถทุก 1-1.5 ชั่วโมง ปรับท่านั่งและเบาะให้ถูกต้อง ขยับร่างกายระหว่างรถติด หลีกเลี่ยงการกลั้นปัสสาวะหรืออุจจาระ และพักผ่อนเต็มที่ก่อนเดินทาง
  • เทคนิคปรับเบาะนั่งให้นั่งสบาย สามารถทำได้ด้วยการนั่งให้แผ่นหลัง สะโพก และต้นขาชิดเบาะมากที่สุด เข่างอเล็กน้อยเมื่อเหยียบเบรกสุด ปรับความสูงเบาะนั่งให้มองเห็นทัศนวิสัยรอบรถ ปรับเบาะนั่งเงยขึ้นเล็กน้อย และปรับพนักพิงเอน 110-120 องศา

หลายคนมีความจำเป็นต้องขับรถเป็นเวลานานๆ ในชีวิตประจำวัน เช่น รถติด เดินทางไกล บ้านห่างจากที่ทำงานมาก แต่การขับรถต่อเนื่องหลายชั่วโมงอาจทำให้เกิดอาการป่วยจากการขับรถนานๆ เช่น ปวดหัว ปวดเมื่อย อ่อนล้า ปวดท้องน้อย และบางอาการอาจส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาวได้ บทความนี้จะพาคนรักรถเช็กสัญญาณเงียบ อาการป่วยจากการขับรถนานๆ ที่ควรสังเกตตัวเอง รู้ก่อนรักษาได้ไวกว่า!

เช็กสัญญาณอาการป่วยที่พบบ่อยจากการขับรถนานๆ 

เช็กสัญญาณอาการป่วยที่พบบ่อยจากการขับรถนานๆ 

มาเช็กสัญญาณเบื้องต้น หากคุณมีอาการเหล่านี้ อาจมีสาเหตุจากการขับหรือนั่งรถนานๆ นอกจากอาการปวดหัว ปวดท้องน้อย และปวดขาแล้ว ยังมีอาการอะไรบ้าง

เมารถ

เมารถเป็นอาการป่วยที่พบบ่อยจากการขับรถหรือนั่งรถนานๆ โดยเกิดขึ้นได้ทั้งการเดินทางใกล้หรือไกล รวมถึงกับยานพาหนะอื่นๆ เช่น เมาเรือหรือเมาเครื่องบิน โดยสาเหตุหลักมาจากการเคลื่อนไหวของรถที่ทำให้สมองสับสนระหว่างสัญญาณจากหูชั้นในกับภาพที่ดวงตาเห็น ส่งผลให้เกิดอาการเวียนศีรษะ คลื่นไส้ และอาเจียน ซึ่งอาจรบกวนการเดินทาง ทำให้รู้สึกไม่สบายตัวและต้องหยุดพักบ่อย

กล้ามเนื้อคออักเสบ

การขับรถนานๆ จำเป็นต้องใช้กล้ามเนื้อส่วนหัวไหล่และต้นคอเพื่อการบังคับและคุมพวงมาลัย โดยการขับรถทางไกลแบบไม่ได้หยุดพัก จะทำให้กล้ามเนื้อส่วนนี้เกิดความตึงตัวและแข็งเกร็งได้ อาการกล้ามเนื้อคออักเสบมักเริ่มจากจุดเล็กๆ เช่น อาการปวดเมื่อยหรือล้าตามต้นคอ และยังสามารถพัฒนาเป็นการอักเสบภายในกล้ามเนื้อ รู้สึกปวดตึงมากขึ้น และอาจส่งผลให้มีอาการลามไปยังบริเวณอื่น เช่น หลัง หรือแขนได้ในที่สุด

ความเครียด

ความเครียดคืออาการทางจิตใจที่พบบ่อยจากการขับรถนานๆ โดยสาเหตุมักมาจากรถติดหนักในช่วงเทศกาล ปริมาณรถมากกว่าปกติ และความเมื่อยล้าจากการใช้สมาธิขับรถต่อเนื่อง ส่งผลทำให้สุขภาพกายแย่ลง เช่น หัวใจเต้นเร็ว ความดันสูง ปวดหัวคอไหล่ และสุขภาพจิตเสียหาย เช่น หงุดหงิด วิตกกังวล อาจนำไปสู่ภาวะซึมเศร้าได้

ปวดหลัง/ปวดเมื่อยตามร่างกาย

เคยมีอาการปวดขาจากการขับรถไหม? อาการปวดหลังหรือปวดเมื่อยตามร่างกายมักเป็นอาการป่วยที่พบบ่อยจากการขับรถหรือนั่งรถนานๆ จากการนั่งท่าเดิมหลายชั่วโมงโดยไม่ขยับตัว ทำให้กล้ามเนื้อหดเกร็งและรับแรงกดทับสูงที่กระดูกสันหลัง จนเกิดอาการปวดเมื่อยทั่วร่างกาย โดยเฉพาะหลังล่างลามไปคอ ไหล่ สะโพก ขา รบกวนการขับรถและกิจวัตรประจำวัน

ภาวะหลอดเลือดดำอุดตัน

ภาวะหลอดเลือดดำอุดตันเป็นอีกภัยเงียบที่เกิดจากการนั่งขับรถหรือนั่งรถนานๆ โดยเกิดจากการนั่งนิ่งไม่ขยับ ทำให้เลือดไหลเวียนช้า จับตัวเป็นลิ่ม โดยเฉพาะช่วงรถติดหรือเดินทางไกล ทำให้ปวดบวมแดงร้อนบริเวณน่อง ข้อเท้า ลิ่มเลือดอาจไหลไปอุดตันปอดหรือหัวใจ หรืออาการอาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้

กระเพาะปัสสาวะอักเสบ

หลายคนเมื่อต้องเดินทางไกลหรือเจอรถติดเป็นเวลานานๆ มักกลั้นปัสสาวะ แต่นั่นเป็นหนึ่งในภัยเงียบที่นำไปสู่อาการเจ็บป่วยจากการขับรถนานๆ อย่างกระเพาะปัสสาวะอักเสบ มีสาเหตุจากการกลั้นปัสสาวะนานๆ เนื่องจากรถติด หาห้องน้ำยาก หรือปั๊มแน่น ทำให้เชื้อแบคทีเรียสะสมในกระเพาะปัสสาวะ และมีอาการปัสสาวะแสบขัดบ่อย ปัสสาวะไม่ออกทั้งที่ปวดมาก น้ำปัสสาวะขุ่นหรือปนเลือด หากรุนแรงมากอาจลามไปไตหรือติดเชื้อในกระแสเลือดถึงแก่ชีวิต

พังผืดทับเส้นประสาทบริเวณข้อมือ

อาการปวดข้อมืออาจไม่ใช่แค่อาการจากการทำงานเป็นเวลานานๆ แต่ยังรวมถึงพฤติกรรมการจับพวงมาลัยแน่นและใช้งานข้อมือหนักต่อเนื่องโดยไม่ได้หยุดพัก ทำให้เส้นเอ็นอักเสบ บวม กดทับเส้นประสาทในบริเวณข้อมือ จนเกิดอาการปวดข้อมือ เจ็บแปลบ ชา นิ้วมืออ่อนแรง หยิบจับของหลุดง่าย และรบกวนการขับรถและกิจวัตรประจำวันได้

โรคเกี่ยวกับลำไส้

นั่งรถนานๆ แล้วปวดท้องน้อย อาจเป็นสัญญาณของอาการที่เกี่ยวกับลำไส้ มักมีสาเหตุจากการกลั้นอุจจาระนานๆ โดยไม่ได้แวะพักหรือรถติด ทำให้ร่างกายดูดซึมน้ำจากกากอาหารจนอุจจาระแข็งตัว ส่งผลให้ท้องผูกเรื้อรัง ถ่ายยาก เบ่งแรงเกิดแรงดันในลำไส้ นำไปสู่ลำไส้อักเสบ ลำไส้แปรปรวน หรือรุนแรงถึงมะเร็งลำไส้ ถ้าหากเกิดอาการซ้ำอาจมีท้องอืด ปวดท้อง ท้องเสียสลับท้องผูก

วิธีดูแลตัวเองเมื่อมีอาการจากการขับหรือนั่งรถนานๆ

วิธีดูแลตัวเองเมื่อมีอาการจากการขับหรือนั่งรถนานๆ

อาการต่างๆ ทั้งปวดขาจากการขับรถหรือนั่งรถเป็นเวลานานๆ เป็นสิ่งที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ในชีวิตประจำวัน ดังนั้นการดูแลตัวเองจึงเป็นวิธีรักษาอาการป่วยจากการขับรถนานๆ จึงควรลองขยับสักนิด เพื่อสุขภาพที่ดีขึ้น

  • จอดพักรถทุก 1-1.5 ชั่วโมง เพื่อยืดเส้นยืดสาย เปลี่ยนอิริยาบถ และบริหารกล้ามเนื้อคอ ไหล่ แขน ขา
  • ปรับท่านั่งและเบาะให้ถูกต้อง หลังตรงชิดพนัก เข่างอเล็กน้อยเมื่อเหยียบเบรก
  • ขยับร่างกายระหว่างรถติด ยืดคอ หมุนไหล่ บีบไหล่ ดึงเท้า ยืดกล้ามเนื้อขา นวดคอและบ่า
  • ดื่มน้ำมากๆ หลีกเลี่ยงการกลั้นปัสสาวะหรืออุจจาระ วางแผนแวะห้องน้ำล่วงหน้า
  • พักผ่อนเต็มที่ก่อนเดินทาง เตรียมเสบียง ยาแก้ปวด และหลับตาพักสายตาเป็นระยะ

หากต้องขับรถนานๆ ปรับเบาะนั่งอย่างไรให้ดีต่อสุขภาพ

หากต้องขับรถนานๆ ปรับเบาะนั่งอย่างไรให้ดีต่อสุขภาพ

  1. นั่งให้แผ่นหลัง สะโพก และต้นขาชิดเบาะมากที่สุด เพื่อให้เบาะโอบรับสรีระร่างกาย ลดแรงกดทับกระดูกสันหลัง
  2. ปรับระยะห่างเบาะนั่ง ให้เข่างอเล็กน้อยเมื่อเหยียบเบรกสุด ช่วยเหยียบคันเร่ง-เบรกเต็มที่ ลดบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ
  3. ปรับความสูงเบาะนั่ง ให้มองเห็นทัศนวิสัยรอบรถชัดเจน ศีรษะห่างเพดาน 1 กำปั้น
  4. ปรับเบาะนั่งเงยขึ้นเล็กน้อย รับต้นขาได้ดี เหยียบแป้นง่ายขึ้น
  5. ปรับพนักพิงเอน 110-120 องศา สร้างระยะจากพวงมาลัยเหมาะสม ลดแรงดันกระดูกสันหลัง
  6. ปรับเบาะรองศีรษะ ตรงระดับศีรษะ ห่าง 2-4 ซม. ป้องกันบาดเจ็บคอ
  7. จับพวงมาลัยตำแหน่ง 3 และ 9 นาฬิกา ลดเมื่อยไหล่ หมุนพวงมาลัยได้ง่ายขึ้น
  8. ปรับมุมและระยะพวงมาลัย ให้แขนงอเล็กน้อย ถนัด ไม่เกร็งไหล่หรือเอื้อม

ติดฟิล์มรถยนต์ กับ SPMS-EST ดีกว่าอย่างไร

การเลือกฟิล์มกรองแสงรถยนต์ที่เหมาะสมจำเป็นต้องพิจารณาอย่างรอบด้าน โดยเน้นเลือกแบรนด์คุณภาพสูงและร้านติดตั้งที่ได้รับการรับรองมาตรฐานจาก 3M เท่านั้น เพื่อให้มั่นใจว่าฟิล์มจะตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างแท้จริง โดยฟิล์ม 3M ถูกออกแบบให้มีความเข้มที่ยังคงมอบทัศนวิสัยที่สบายตา ลดแสงสะท้อนรบกวนรถคันอื่น พร้อมทั้งกันรังสี UV ได้ดีเยี่ยม ช่วยลดความร้อนทำให้ห้องโดยสารเย็นสบาย และเสริมความปลอดภัยในการขับขี่

ด้วยเหตุนี้ จึงควรเลือกติดตั้งกับร้านตัวแทนจำหน่ายของ 3M ที่ครอบคลุมทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นในกรุงเทพฯ ปริมณฑล หรือต่างจังหวัด เพื่อให้ได้รับฟิล์มที่ตรงตามความต้องการและการใช้งานจริงที่สุด โดยคุณสามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ เพื่อขอคำแนะนำที่เหมาะสมหรือตรวจสอบ 3M ติดฟิล์ม สาขาใกล้บ้าน ผ่านเว็บไซต์หลักของ SPMS-EST.com

สรุป

การขับขี่รถยนต์ตอนรถติดหรือช่วงเทศกาล อาจเป็นสาเหตุสำคัญที่นำไปสู่อาการป่วยจากการขับรถนานๆ ทั้งอาการเมารถ กล้ามเนื้อคออักเสบ ปวดหลัง/เมื่อยตามร่างกาย และความเครียด นอกจากนี้ยังมีภัยเงียบที่อันตราย เช่น ภาวะหลอดเลือดดำอุดตัน กระเพาะปัสสาวะอักเสบ รวมถึงอาการเฉพาะจุดอย่างพังผืดทับเส้นประสาทบริเวณข้อมือ และโรคเกี่ยวกับลำไส้ หากต้องขับรถนานๆ จำเป็นต้องพักเบรกหรือขยับร่างกายเล็กน้อย เพื่อสุขภาพที่ยืนยาว

ในการเดินทางไม่ว่าจะนานแค่ไหน มีสิ่งหนึ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้คือความร้อน แสงแดด และรอยขีดข่วน การติดฟิล์มรถยนต์ที่มีคุณภาพจึงเป็นการป้องกันที่มีประสิทธิภาพ โดยควรเลือกติดตั้งฟิล์มกับร้านที่ได้รับการรับรองมาตรฐานจาก 3M กับ SPMS-EST คุณมั่นใจได้เลยว่าได้ติดตั้งฟิล์มที่มีคุณภาพกับช่างมืออาชีพจริงๆ และสามารถป้องกันแสงแดด รังสี UV ช่วยให้ห้องโดยสารเย็นขึ้น พร้อมบริการหลังการขายที่ทุกคนไว้วางใจ

FAQ – คำถามที่พบบ่อย

อาการป่วยจากการขับรถนานๆ ถึงแม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่หากปล่อยไว้นานๆ อาจส่งผลต่อปัญหาสุขภาพระยะยาวได้ แต่หลายคนอาจมีข้อสงสัยอยู่ มาดูคำถามที่พบบ่อยและคำตอบที่น่าสนใจกัน

ขับรถต่อเนื่องได้กี่ชั่วโมง

ขับรถต่อเนื่องได้ไม่เกิน 1-2 ชั่วโมง แล้วต้องจอดพักเพื่อยืดเส้นยืดสายและเปลี่ยนอิริยาบถ หากขับนานเกินกว่านี้อาจเสี่ยงอ่อนล้า ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ปวดหลัง และหลอดเลือดอุดตัน โดยแนะนำพักทุก 1.5 ชั่วโมงอย่างน้อย 15 นาที เพื่อลดความเสี่ยงอุบัติเหตุและปัญหาสุขภาพ

ขับรถทางไกลควรพักรถในทุกกี่กิโลเมตร

ขับรถทางไกลควรพักรถทุก 150-200 กิโลเมตร หรือทุก 2 ชั่วโมง พักอย่างน้อย 10-15 นาที ยืดเส้นยืดสาย ดื่มน้ำ และเช็กรถ ลดเสี่ยงอุบัติเหตุจากอ่อนเพลีย หากเกิน 300 กม. ให้พักนานขึ้น 30-60 นาที หรือสลับคนขับ

อาการเหม่อลอยขณะขับรถเกิดจากอะไรบ้าง

อาการเหม่อลอยขณะขับรถเกิดจากความเมื่อยล้า นอนไม่พอ ง่วงนอนสะสม ความเครียด ขาดสมาธิ โดยการขับรถนานๆ หรือทางเดิมซ้ำๆ ทำให้สมองเข้าสู่ “Highway Hypnosis” สูญเสียการโฟกัสแต่ร่างกายขับต่ออัตโนมัติ

แชร์บทความนี้