คนรักรถควรรู้!
- ฟิล์ม Paint Protection Film คือฟิล์มโพลียูรีเทน ที่มีความยืดหยุ่นสูง ออกแบบมาเพื่อติดตั้งบนพื้นผิวสีของรถยนต์โดยตรง ปกป้องสีรถจากรอยขีดข่วน เศษหิน คราบสกปรก และฟิล์มนี้ช่วยรักษาความเงางามและสภาพสีรถให้ดูใหม่อยู่เสมอ
- ข้อดีของฟิล์ม PPF ได้แก่ ช่วยปกป้องผิวสีรถจากรอยขีดข่วน เศษหิน และการเฉี่ยวชน ลดการเกาะของคราบน้ำ ฝุ่น และสารเคมี และช่วยยืดอายุการใช้งานของสีรถได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- เปรียบเทียบฟิล์มยอดนิยมแต่ละรุ่น แบ่งเป็น Ultimate Film Ceramic ฟิล์มที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความเป็นส่วนตัวและการปกป้องรอบด้าน ส่วน VentureShield 3M ฟิล์มใส เหมาะกับผู้ที่ต้องการปกป้องสีรถโดยไม่เปลี่ยนรูปลักษณ์
- เคล็ดลับดูและฟิล์ม PPF คือ หลีกเลี่ยงการล้างรถในช่วง 7 – 14 วันแรกหลังติดตั้ง ห้ามใช้ของมีคม เช่น คัตเตอร์กรีดฟิล์ม เพราะทำให้ฟิล์มเป็นรอยถาวร และห้ามดึงฟิล์มล็อกออกก่อนครบ 30 วันหลังติดตั้ง
Paint Protection Film (PPF) หรือที่รู้จักกันว่า “ฟิล์มใสกันรอย” เป็นเทคโนโลยีการปกป้องสีรถที่ได้รับความนิยมในกลุ่มคนรักรถ ด้วยคุณสมบัติโดดเด่นในเรื่องของการป้องกันรอยขีดข่วน คราบสกปรก และรังสี UV ทำให้สีรถดูเหมือนใหม่อยู่เสมอ บทความนี้จะพาไปทำความรู้กับฟิล์ม “Paint Protection Film” ให้มากขึ้นพร้อมวิธีดูแลรักษาและเปรียบเทียบกับฟิล์มยอดนิยมอื่นๆ กัน
รู้จักกับ Paint Protection Film คืออะไร?
Paint Protection Film (PPF) คือฟิล์มโพลียูรีเทน (Polyurethane) ใสที่มีความยืดหยุ่นสูง ออกแบบมาเพื่อติดตั้งบนพื้นผิวสีของรถยนต์โดยตรง เพื่อปกป้องสีรถจากรอยขีดข่วน เศษหิน คราบสกปรก และรังสี UV ฟิล์มนี้ช่วยรักษาความเงางามและสภาพสีรถให้ดูใหม่อยู่เสมอ อีกทั้งยังมีคุณสมบัติ Self-healing ที่สามารถคืนรูปได้เมื่อเกิดรอยเล็กๆ ทำให้ลดความเสียหายที่เกิดกับสีรถได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ข้อดีของ Paint Protection Film ที่คุณควรรู้ก่อนติด
- ช่วยปกป้องผิวสีรถจากรอยขีดข่วน เศษหิน และการเฉี่ยวชน ด้วยความหนาของฟิล์มและคุณสมบัติ Self-healing ที่ซ่อมแซมรอยเล็กๆ ได้เอง
- เพิ่มความสวยใสและเงางามให้พื้นผิวรถด้วยฟิล์ม TPU ที่มีความใสสูง และเพิ่มความคมชัดถึง 30% โดยไม่ต้องเคลือบแก้ว
- ลดการเกาะของคราบน้ำ ฝุ่น และสารเคมี ผ่านเทคโนโลยี Super-Hydrophobic ช่วยรักษาความสะอาดและง่ายต่อการดูแลรักษารถ
- ปกป้องสีรถจากรังสี UV และความร้อนที่ทำให้สีซีดจาง ช่วยยืดอายุการใช้งานของสีรถ
- ช่วยรักษามูลค่ารถยนต์ในระยะยาว เพราะรถที่ติดฟิล์มกันรอยดูใหม่และสภาพดีอยู่เสมอ เพิ่มความคุ้มค่าตอนขายต่อ
- ฟิล์มมีความยืดหยุ่นสูง ติดตั้งง่ายและสามารถติดตั้งได้ในจุดที่ต้องการป้องกันเป็นพิเศษ เช่น กันชนหรือขอบประตู
เทียบให้ชัด! ฟิล์มยอดนิยมในตลาดรุ่นไหนเหมาะกับใคร?
มาดูกันว่าฟิล์มกันรอย (Protect Film) ที่กำลังได้รับความนิยมในตลาดแต่ละรุ่นนั้น เหมาะกับใคร การใช้งานแบบใดบ้าง
Ultimate Film Ceramic
ฟิล์ม Ultimate Film Ceramic มีคุณสมบัติเด่นคือเป็นฟิล์มนาโนเซรามิกที่ป้องกันรังสี UV ได้สูงถึง 99.9% และสามารถลดความร้อนได้มากถึง 70 – 99% ช่วยให้ห้องโดยสารเย็นเร็วขึ้น พร้อมทัศนวิสัยดีเยี่ยมทั้งกลางวันและกลางคืน และไม่รบกวนสัญญาณอิเล็กทรอนิกส์ เช่น GPS หรือ Easy Pass และมีความทนทานสูง ป้องกันรอยขีดข่วน สีไม่ซีดจาง ฟิล์ม Ultimate Film Ceramic เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฟิล์มกรองแสงที่มีประสิทธิภาพสูง เน้นการปกป้องผิวรถและสุขภาพผิวจากรังสี UV รวมถึงผู้ที่ต้องการความเป็นส่วนตัวอีกด้วย
3M VentureShield
ฟิล์ม VentureShield 3M เป็นฟิล์มกันรอยโพลียูรีเทนที่ติดตั้งง่ายและแทบมองไม่เห็นหลังติดตั้ง ด้วยชั้นฟิล์มและเคลือบผิวสองชั้นที่ช่วยเพิ่มความทนทานสูง ปกป้องรถจากรอยขีดข่วน เศษหิน คราบแมลง น้ำมัน และสภาพอากาศที่รุนแรงได้อย่างมีประสิทธิภาพ และฟิล์มนี้ยังมีความยืดหยุ่นสูง ทำให้ติดตั้งได้พอดีกับพื้นผิวโค้งงอ เช่น ฝาหน้า กันชน และขอบประตู เน้นความคงทนและความใสแบบธรรมชาติ ช่วยรักษาผิวสีรถให้ดูใหม่ได้นานโดยไม่เปลี่ยนรูปลักษณ์ดั้งเดิมของรถ
เทคนิควิธีดูแลรักษาหลังติด Paint Protection Film
- หลีกเลี่ยงการล้างรถในช่วง 7 – 14 วันแรกหลังติดตั้ง เนื่องจากฟิล์มยังไม่แห้งและเซตตัวดี อาจทำให้ฟิล์มเสียหายได้
- ใช้ผลิตภัณฑ์ล้างรถที่มีค่า pH เป็นกลาง และใช้อุปกรณ์ที่นุ่ม เช่น ฟองน้ำหรือผ้านุ่ม หลีกเลี่ยงแปรงแข็งหรือแรงดันน้ำสูง เพราะอาจทำให้ฟิล์มเกิดรอยขีดข่วนหรือหลุดลอกได้
- หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องล้างรถอัตโนมัติที่มีแรงดันน้ำและลมสูง รวมถึงน้ำยาล้างที่มีฤทธิ์กัดกร่อน เพราะอาจทำให้ฟิล์มเสียหาย
- ควรทำความสะอาดฟิล์มอย่างสม่ำเสมอ ไม่ปล่อยให้คราบสกปรก ฝุ่น หรือน้ำเกาะบนฟิล์มนานเกินไป เพราะอาจฝังคราบลึก ทำความสะอาดยากและลดประสิทธิภาพฟิล์ม
- หลีกเลี่ยงการขัดหรือถูด้วยน้ำยาขัดสี เพราะอาจทำลายชั้นฟิล์มและทำให้ฟิล์มบางลง
- จอดรถในที่ร่มหรือไม่โดนแดดแรงเป็นเวลานาน แม้ฟิล์มจะป้องกัน UV แต่การจอดในร่มช่วยยืดอายุการใช้งานของฟิล์มได้
- ควรเข้าตรวจเช็กและบำรุงรักษาฟิล์มกับร้านติดตั้งทุก 6 เดือน เพื่อล้างสะอาดลึกและลงน้ำยาเคลือบฟิล์มเฉพาะอย่างสม่ำเสมอ ช่วยรักษาผิวฟิล์มให้เงางามและยืดอายุการใช้งาน
- หากพบว่าฟิล์มเผยอหรือมีปัญหา ควรรีบติดต่อร้านติดตั้งเพื่อแก้ไขทันที ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้นาน
- ห้ามใช้ของมีคม เช่น คัตเตอร์กรีดฟิล์ม เพราะทำให้ฟิล์มเป็นรอยถาวร และห้ามดึงฟิล์มล็อกออกก่อนครบ 30 วันหลังติดตั้ง
ติดฟิล์มรถยนต์ กับ SPMS-EST ดีกว่าอย่างไร
หากกำลังมองหาร้านติดฟิล์ม Paint Protection Film ที่ไว้ใจได้ ควรเลือกร้านติดตั้งที่ได้รับมาตรฐาน ได้รับการรับรองมาตรฐานจาก 3M เพื่อปกป้องรถที่คุณรักให้สวย เงางามเหมือนใหม่อยู่เสมอ ลดการเกาะของคราบน้ำ ฝุ่น และสารเคมีต่างๆ การเลือกร้านติดตั้งฟิล์มจึงเป็นสิ่งสำคัญ พร้อมคุณภาพที่ไว้วางใจและรับประกันคุณภาพ
เราจึงขอแนะนำร้านติดฟิล์มที่ได้รับมาตรฐานรับรองจาก 3M อย่าง SPMS-EST ที่มีฟิล์มหลากหลายประเภทให้เลือก พร้อมคำแนะนำเพื่อให้เลือกฟิล์มที่เหมาะสำหรับคุณและรถไปพร้อมๆ กัน โดยแนะนำให้เลือกติดฟิล์มกับร้านตัวแทนใกล้บ้าน เพื่อความสะดวกและรวดเร็วในการรับบริการ ร้านตัวแทนจำหน่ายฟิล์มของ 3M มีทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นในกรุงเทพฯ ปริมณฑล หรือจังหวัดต่างๆ โดยคุณสามารถค้นหา 3M ติดฟิล์ม สาขาใกล้บ้านได้ง่ายๆ ผ่านเว็บไซต์หลักของ SPMS-EST.com
สรุป
Paint Protection Film คือฟิล์มใสชนิดโพลียูรีเทนที่มีความยืดหยุ่นสูง ออกแบบมาติดบนพื้นผิวสีรถยนต์เพื่อป้องกันรอยขีดข่วน เศษหิน คราบสกปรก และรังสี UV พร้อมคุณสมบัติ Self-healing ที่สามารถคืนสภาพเมื่อเกิดรอยเล็กๆ ได้เอง ช่วยรักษาความเงางามของสีรถให้ดูใหม่อยู่เสมอ ฟิล์มชนิดนี้มีข้อดีหลายอย่าง เช่น เพิ่มความใสเงางาม ลดคราบน้ำ-ฝุ่น ป้องกัน UV และยืดอายุสีรถ อีกทั้งยังช่วยรักษามูลค่ารถในระยะยาว หลังติดตั้งควรดูแลฟิล์มอย่างถูกวิธี เพื่อยืดอายุการใช้งานและคงความสวยงามของรถได้อย่างยาวนาน
หากมองหาการปกป้องรถยนต์ที่คุณรักอย่างครบครัน แนะนำติดฟิล์มรถยนต์กับร้านที่ได้รับการรับรองมาตรฐานจาก 3M อย่าง SPMS-EST ทำให้คุณสามารถมั่นใจในคุณภาพของฟิล์มด้วยการติดตั้งจากทีมงานมืออาชีพ โดยฟิล์ม 3M มีคุณสมบัติพิเศษช่วยปกป้องรถจากความร้อนและรังสี UV ปกป้องรถจากรอยขีดข่วน และบริการหลังการขายที่ใครๆ ต่างไว้วางใจ เพื่อให้รถที่คุณรักสวย เงางามยาวนาน
FAQ – คำถามที่พบบ่อย
ฟิล์ม PPF และ TPU ต่างกันอย่างไร
ฟิล์ม PPF คือฟิล์มกันรอยสำหรับรถที่ผลิตจาก TPU ที่ช่วยปกป้องและรักษาสีรถให้ดูใหม่ ส่วน TPU คือวัสดุโพลียูรีเทนที่เป็นส่วนประกอบหลักของฟิล์ม PPF ทำให้ฟิล์มมีความยืดหยุ่นและคุณสมบัติ Self-healing ที่สามารถซ่อมแซมรอยเล็กๆ ได้เองเมื่อโดนความร้อน
ฟิล์มกันรอยรถยนต์มีกี่แบบ
ฟิล์มกันรอยรถยนต์มีอยู่หลักๆ 3 ประเภท ดังนี้
- ฟิล์ม PVC (Polyvinyl Chloride)
- ฟิล์ม TPH (Thermoplastic Polyurethane Hybrid)
- ฟิล์ม TPU (Thermoplastic Polyurethane)
ฟิล์ม PPF มีอายุการใช้งานกี่ปี
โดยทั่วไป ฟิล์ม PPF จะมีอายุการใช้งานเฉลี่ยประมาณ 5 – 10 ปี หรืออาจนานกว่านั้น ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง จึงควรตรวจสอบสภาพฟิล์มอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้มั่นใจว่ายังคงปกป้องสีรถได้อย่างมีประสิทธิภาพ
