มัดรวม! เทคนิคเลือกฟิล์มรถไฟฟ้า เลือกอย่างไรให้เหมาะกับรถคุณ

มัดรวม! เทคนิคเลือกฟิล์มรถไฟฟ้า เลือกอย่างไรให้เหมาะกับรถคุณ

คนรักรถควรรู้!

  • ฟิล์มรถไฟฟ้า คือฟิล์มกรองแสงที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าโดยเน้นไม่รบกวนสัญญาณดิจิทัลและระบบไฟฟ้าภายในรถ ต่างกับฟิล์มรถยนต์ทั่วไปที่มักมีส่วนผสมของโลหะซึ่งอาจรบกวนสัญญาณหรือไม่เหมาะกับระบบไฟฟ้าในรถ EV ได้
  • ทำไมควรติดฟิล์มให้รถไฟฟ้า? เพราะฟิล์มช่วยลดความร้อนภายในห้องโดยสาร ปกป้องวัสดุและอุปกรณ์ภายในรถ เพิ่มความปลอดภัยจากการแตกกระจายของกระจก เพิ่มความเป็นส่วนตัว และไม่รบกวนสัญญาณดิจิตอล
  • เคล็ดลับในการเลือกฟิล์มรถไฟฟ้า ควรเช็กค่าความร้อนรวม (TSER) ค่าการป้องกันรังสี UV (UV Rejection) ค่าแสงส่องผ่าน (VLT) เลือกฟิล์มที่ไม่รบกวนสัญญาณดิจิทัล เหมาะกับหลังคาซันรูฟ และมีการรับประกันและบริการหลังการขายที่ครอบคลุม

รถไฟฟ้าหรือรถ EV กำลังได้รับความนิยมในปัจจุบัน ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่นในเรื่องของการประหยัดพลังงานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การดูแลรถไฟฟ้าจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม รวมถึงการเลือกติดฟิล์มรถไฟฟ้าที่เหมาะสม เพื่อลดความร้อนภายในห้องโดยสารและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งาน บทความนี้มาแนะนำวิธีเลือกฟิล์มกรองแสงสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าให้เหมาะกับรถกัน!

 ทำความรู้จักกับฟิล์มรถไฟฟ้า ต่างจากฟิล์มรถยนต์ทั่วไปอย่างไร

ทำความรู้จักกับฟิล์มรถไฟฟ้า ต่างจากฟิล์มรถยนต์ทั่วไปอย่างไร

ฟิล์มรถไฟฟ้า (EV) คือฟิล์มกรองแสงที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าโดยเน้นไม่รบกวนสัญญาณดิจิทัลและระบบไฟฟ้าภายในรถ รวมถึงช่วยบูสต์สัญญาณ ทำให้ระบบต่างๆ ของรถทำงานได้ลื่นไหล มีคุณสมบัติกันความร้อน รังสีอินฟราเรด และ UV สูง ช่วยลดความร้อนภายในห้องโดยสาร ปกป้องอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และประหยัดพลังงานต่างจากฟิล์มรถยนต์ทั่วไปที่มักมีส่วนผสมของโลหะซึ่งอาจรบกวนสัญญาณหรือไม่เหมาะกับระบบไฟฟ้าในรถ EV

โดยฟิล์มรถยนต์ทั่วไปมีหลายประเภท เช่น ฟิล์มย้อมสี ฟิล์มปรอท ฟิล์มไฮบริด ฟิล์มคาร์บอน และฟิล์มเซรามิก ที่มีคุณสมบัติด้านการกันความร้อนและ UV แตกต่างกัน แต่บางประเภทอาจรบกวนสัญญาณ GPS หรือ Easy Pass ขณะที่ฟิล์มสำหรับรถไฟฟ้าจะหลีกเลี่ยงส่วนผสมโลหะเพื่อความเข้ากันได้ดีกับระบบไฟฟ้า

ทำไมรถไฟฟ้าควรติดฟิล์มกรองแสง

ทำไมรถไฟฟ้าควรติดฟิล์มกรองแสง

  • ไม่รบกวนสัญญาณดิจิตอล รถไฟฟ้ามีอุปกรณ์และระบบอิเล็กทรอนิกส์มาก ฟิล์มสำหรับรถไฟฟ้าจะต้องไม่รบกวนสัญญาณ GPS, Easy Pass และระบบอื่นๆ เพื่อให้การทำงานของรถเป็นไปอย่างราบรื่น
  • ลดความร้อนภายในห้องโดยสาร ฟิล์มกรองแสงช่วยสะท้อนรังสีอินฟราเรดและ UV ลดความร้อนภายในรถ ทำให้ห้องโดยสารเย็นสบายขึ้น ช่วยถนอมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ภายในรถ
  • ปกป้องวัสดุและอุปกรณ์ภายในรถ ลดการซีดจางและเสียหายของวัสดุในรถจากรังสี UV และความร้อน
  • เพิ่มความปลอดภัยจากการแตกกระจายของกระจก ฟิล์มช่วยยึดเศษกระจกเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ลดการบาดเจ็บจากเศษกระจก
  • เพิ่มความเป็นส่วนตัว ฟิล์มกรองแสงช่วยบดบังการมองเห็นจากภายนอก เพิ่มความเป็นส่วนตัวให้ผู้โดยสาร
ประเภทของฟิล์มรถไฟฟ้า มีอะไรบ้าง

ประเภทของฟิล์มรถไฟฟ้า มีอะไรบ้าง

หากกำลังมองหาฟิล์มรถไฟฟ้าเพื่อปกป้องรถที่คุณรัก มาดูกันว่าฟิล์มรถไฟฟ้ามีกี่ประเภท

ฟิล์มเซรามิก (Ceramic Film)

ฟิล์มเซรามิกเป็นฟิล์มกรองแสงคุณภาพสูง ที่มีจุดเด่นเรื่อง “ความเป็นส่วนตัว” โดยเฉพาะจากภายนอกตัวรถจะมองไม่เห็นภายในเลย แต่ในขณะเดียวกัน ผู้ขับขี่หรือผู้โดยสารภายในรถยังสามารถมองเห็นภายนอกได้อย่างชัดเจน สว่าง ไม่บดบังทัศนวิสัยในการขับขี่ หรือที่นิยมเรียกกันว่า “มืดนอก สว่างใน” และสามารถกันความร้อนจากรังสี UV ได้ดี ช่วยลดความร้อนภายในห้องโดยสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงเนื้อฟิล์มไม่มีส่วนผสมของโลหะ ทำให้ไม่รบกวนสัญญาณดิจิทัล และไม่ก่อให้เกิดสนิม

ฟิล์มนาโน (Nano Film)

ฟิล์มนาโน (Nano Film) สำหรับรถไฟฟ้ามีคุณสมบัติเด่นคือฝังอนุภาคนาโนเซรามิคขนาดเล็กไว้ในเนื้อฟิล์ม จึงช่วยป้องกันความร้อนจากรังสีอินฟราเรดและรังสี UV ได้สูง ลดอุณหภูมิภายในรถได้ดีโดยไม่สะสมความร้อนที่กระจก ฟิล์มชนิดนี้ยังมีความโปร่งใสสูง มองเห็นชัดเจนทั้งกลางวันและกลางคืน และไม่รบกวนสัญญาณดิจิทัล เช่น GPS, Wi-Fi หรือ Easy Pass ทำให้ระบบไฟฟ้าในรถทำงานได้อย่างราบรื่น

นอกจากนี้ฟิล์มนาโนยังมีความทนทานต่อความร้อนสูง ไม่ซีดจาง อายุการใช้งานยาวนาน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฟิล์มกรองแสงคุณภาพสูงเน้นทั้งการปกป้องความร้อนและการรักษาความใสของกระจกพร้อมกับไม่ก่อกวนสัญญาณอิเล็กทรอนิกส์ในรถไฟฟ้า

ฟิล์มใส

ฟิล์มใสเป็นฟิล์มกรองแสงที่ให้คุณสมบัติกันความร้อนได้ดี เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการโชว์ดีไซน์ภายในรถ หรือชื่นชอบการขับขี่ที่มีทัศนวิสัยชัดเจนทั้งกลางวันและกลางคืน แต่ฟิล์มใสมีข้อจำกัดคือ มักมีส่วนผสมของโลหะ อาจรบกวนสัญญาณดิจิทัลต่างๆ เช่น GPS, Easy Pass และสัญญาณโทรศัพท์ได้ จึงควรเลือกฟิล์มใสที่ไม่มีส่วนผสมของโลหะ มีคุณสมบัติไม่รบกวนสัญญาณดิจิทัล และสามารถกันความร้อนได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ป้องกันรังสี UV ลดอุณหภูมิภายในห้องโดยสาร

วิธีเลือกฟิล์มสำหรับรถไฟฟ้าให้เหมาะสมกับรถ

วิธีเลือกฟิล์มสำหรับรถไฟฟ้าให้เหมาะสมกับรถ 

ก่อนวางแผนติดฟิล์มให้กับรถไฟฟ้าที่คุณรัก มีปัจจัยที่ควรคำนึงถึงในการเลือกซื้อฟิล์ม เพื่อให้เหมาะสมกับรถและผู้ใช้งานมากที่สุด โดยเทคนิคในการเลือกมีดังนี้

เช็กค่าความร้อนรวม (TSER – Total Solar Energy Rejected)

TSER หรือ Total Solar Energy Rejection คือค่าที่ใช้วัดประสิทธิภาพในการป้องกันความร้อนจากแสงอาทิตย์ของฟิล์มกรองแสง โดยแสงอาทิตย์ประกอบด้วย 3 องค์ประกอบหลัก ได้แก่

  • รังสี UV (Ultraviolet) ที่เป็นอันตรายต่อผิวหนังและวัสดุภายในรถ
  • แสงสว่างที่มองเห็นได้ (Visible Light หรือ VL) เป็นแสงที่ตามองเห็น
  • รังสีอินฟราเรด (Infrared หรือ IR) คลื่นความร้อนที่มองไม่เห็น แต่ร่างกายสามารถสัมผัสได้

ดังนั้น ฟิล์มกรองแสงมีค่า TSER สูง ก็ยิ่งสามารถป้องกันความร้อนจากแสงอาทิตย์ได้มากขึ้น ส่งผลให้ห้องโดยสารเย็นลง ลดการทำงานของแอร์ และเพิ่มความสบายในการขับขี่

ดูค่าการป้องกันรังสี UV (UV Rejection)

ค่าการป้องกันรังสี UV (UV Rejection) คือค่าที่บอกถึงประสิทธิภาพของฟิล์มในการกรองหรือบล็อกรังสีอัลตราไวโอเลต (UV) ซึ่งเป็นสาเหตุของความร้อนในรถและทำให้วัสดุภายในรถเสื่อมสภาพได้ เพราะหากฟิล์มมีค่าป้องกันรังสี UV สูง จะสามารถป้องกันรังสี UV ได้มากกว่า 99% ช่วยลดความร้อนและปกป้องอุปกรณ์ภายในรถไฟฟ้าได้ดีขึ้น

การเลือกฟิล์มจึงควรเลือกฟิล์มกรองแสงที่มีค่าการป้องกันรังสีสูง เพื่อเพิ่มความเย็นสบายในห้องโดยสาร ลดการซีดจางของวัสดุและป้องกันอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ละเอียดอ่อนในรถไฟฟ้า โดยฟิล์มที่ดีควรมีทั้งการป้องกันรังสี UV และอินฟราเรดสูง โดยไม่รบกวนสัญญาณดิจิทัลของรถไฟฟ้า เช่น GPS หรือ Easy Pass เพื่อความเข้ากันได้กับระบบรถ

ค่าแสงส่องผ่าน (VLT – Visible Light Transmittance)

VLT หรือ Visible Light Transmission คือค่าที่ใช้วัดปริมาณแสงที่สามารถส่องผ่านฟิล์มเข้ามาภายในรถได้ โดยแสดงออกมาในรูปแบบเปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นตัวบ่งบอกระดับความเข้มหรือความใสของฟิล์มกรองแสง

  • ค่า VLT ต่ำ แสงผ่านได้น้อย ฟิล์มจะมีความเข้มสูง มองจากภายนอกจะทึบมากขึ้น
  • ค่า VLT สูง แสงผ่านได้มาก ฟิล์มจะมีความใส มองเห็นจากภายนอกได้ชัดเจน

การเลือกฟิล์มสำหรับรถไฟฟ้ามักเลือกฟิล์มที่มีค่า VLT ตามตำแหน่งกระจก เช่น ตำแหน่งกระจกประตูด้านข้างทั้ง 4 บาน นิยมใช้ฟิล์มที่มีค่า VLT ประมาณ 20% เพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัว ส่วนกระจกบังลมหน้าและกระจกหลัง มักเลือกใช้ฟิล์มที่มีค่า VLT ประมาณ 35% เพื่อให้มองเห็นถนนได้ชัดเจนในทุกสภาพแสง

เลือกฟิล์มที่ไม่รบกวนสัญญาณดิจิทัล

การเลือกฟิล์มที่ไม่รบกวนสัญญาณดิจิทัล เป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับรถไฟฟ้า เพราะรถไฟฟ้ามีระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ต้องทำงานร่วมกับสัญญาณดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง หากฟิล์มมีส่วนผสมของโลหะหรือสารสะท้อนแสง จะทำให้คลื่นสัญญาณถูกรบกวน ส่งผลให้ระบบ GPS หรือ Easy Pass ใช้งานไม่ได้หรือผิดพลาด

ควรเลือกฟิล์มที่ไม่มีโลหะหรือสารสะท้อน เช่น ฟิล์มเซรามิก (Ceramic Film) ที่ออกแบบมาเพื่อลดความร้อนสูง ป้องกันรังสี UV และที่สำคัญคือไม่กีดกันสัญญาณดิจิทัลเหล่านี้ ทำให้รถไฟฟ้าทำงานได้ และสะดวกในการใช้ระบบทางด่วน หลีกเลี่ยงการติดตั้งฟิล์มที่มีโลหะเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาสัญญาณขัดข้อง

เลือกฟิล์มที่เหมาะกับหลังคาซันรูฟ

หลังคาซันรูฟมักเป็นกระจกใสที่รับแสงแดดโดยตรงจึงทำให้ความร้อนและรังสี UV ส่องผ่านเข้ามาในรถได้มาก จึงควรเลือกฟิล์มที่มีคุณสมบัติในการป้องกันรังสีอินฟราเรด (IR) ได้สูงถึง 90% ขึ้นไป และป้องกันรังสี UV มากกว่า 99% เพื่อช่วยลดความร้อนภายในรถ ลดการซีดจางของวัสดุและปกป้องผู้โดยสารจากแสง UV นอกจากนี้ฟิล์มควรมีความแข็งแรง ทนทาน และไม่ส่งผลกระทบต่อสัญญาณดิจิทัลในรถไฟฟ้า เช่น GPS หรือ Easy Pass เพื่อความสะดวกในการใช้งานและปกป้องหลังคาซันรูฟจากความเสียหาย

พิจารณาการรับประกันและบริการหลังการขาย

การรับประกันและบริการหลังการขายหลังเลือกซื้อและติดตั้งฟิล์มกรองแสงรถไฟฟ้าเป็นอีกปัจจัยที่ควรพิจารณา เพราะช่วยคุ้มครองผู้ใช้ในกรณีที่ฟิล์มเกิดปัญหา เช่น ฟิล์มลอก บวมพอง หรือเกิดฟองอากาศ จะได้เคลมฟิล์มใหม่โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมภายในระยะเวลารับประกันที่กำหนด

นอกจากนี้ บริการหลังการขายที่ดีจะช่วยให้ผู้ใช้มั่นใจเรื่องคุณภาพและการดูแลหลังติดตั้ง เช่น ลงทะเบียนรับประกันที่ชัดเจน การติดตั้งโดยศูนย์บริการที่ได้รับอนุญาต ซึ่งส่งผลให้การเคลมและบริการเป็นไปอย่างราบรื่นและสะดวก จึงควรเลือกร้านที่ได้รับการรับรองมาตรฐานและมีความน่าเชื่อถือ และตรวจสอบเงื่อนไขการรับประกันว่าครอบคลุมเรื่องใดบ้าง

ติดฟิล์มรถยนต์ กับ SPMS-EST ดีกว่าอย่างไร

การเลือกติดฟิล์มสำหรับรถไฟฟ้าเพื่อปกป้องรถที่คุณรัก ควรเลือกติดตั้งกับร้านที่ได้รับการรับรองมาตรฐานจาก 3M ที่มีคุณสมบัติเหมาะสำหรับผู้ที่ใช้รถไฟฟ้า ด้วยฟิล์มที่ไม่รบกวนสัญญาณดิจิทัล เพื่อให้รถไฟฟ้าสามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ พร้อมคุณสมบัติอื่นๆ ทั้งลดความร้อนจากรังสี UV ให้ห้องโดยสารเย็นสบาย ลดแสงสะท้อน ปกป้องรถจากฝุ่นละออง คราบน้ำ ทำให้รถเงางามเหมือนใหม่อยู่เสมอ

ปัจจุบันทางเรามีฟิล์มให้เลือกหลากหลายรุ่น ซึ่งคุณสามารถรับคำปรึกษาเพื่อเลือกฟิล์มที่ใช่สำหรับคุณและรถของคุณ จึงแนะนำให้เลือกติดฟิล์มกับร้านตัวแทนจำหน่ายในสาขาใกล้บ้าน เพื่อความสะดวกในการเดินทางและบริการที่รวดเร็ว โดยมีครอบคลุมทุกพื้นที่ในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และในต่างจังหวัด สามารถตรวจสอบ 3M ติดฟิล์ม สาขาใกล้บ้านได้จากเว็บไซต์หลักของ SPMS-EST.com

สรุป

ฟิล์มกรองแสงสำหรับรถไฟฟ้า (EV) เป็นฟิล์มที่ถูกออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อไม่ให้รบกวนสัญญาณดิจิทัลและรองรับระบบไฟฟ้าภายในรถ EV มีคุณสมบัติช่วยลดความร้อน ป้องกันรังสี UV และ IR ได้สูง โดยฟิล์ม EV มีให้เลือกหลายประเภท เช่น ฟิล์มเซรามิก ฟิล์มนาโน และฟิล์มใส การเลือกฟิล์มที่เหมาะสม ควรพิจารณาค่า TSER ค่า VLT ค่าการป้องกัน UV ความเข้ากันได้กับสัญญาณดิจิทัล รวมถึงคุณภาพบริการหลังการขาย เพื่อให้สอดคล้องกับการใช้งานจริงและปกป้องรถ EV ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

สำหรับใครที่กำลังมองหาบริการติดตั้งฟิล์มรถไฟฟ้าคุณภาพดี ควรติดกับร้านที่ได้รับการรับรองมาตรฐานจาก 3M อย่าง SPMS-EST ที่คุณสามารถไว้วางใจในคุณภาพของฟิล์มและการติดตั้งจากทีมงานมืออาชีพ ที่มีคุณสมบัติโดดเด่น ทั้งช่วยปกป้องรังสี UV ป้องกันรอยขีดข่วนต่างได้อย่างดีเยี่ยม และบริการหลังการขายที่ครอบคลุม เพื่อให้คุณไว้วางใจ

FAQ – คำถามที่พบบ่อย

ทำไมต้องเลือกฟิล์มกรองแสงสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า?

เพราะรถไฟฟ้ามีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และระบบสัญญาณดิจิทัลที่ซับซ้อน ฟิล์มที่เหมาะสมจึงต้องไม่รบกวนสัญญาณดิจิทัล เช่น GPS และ Easy Pass อีกทั้งต้องกันความร้อนและรังสี UV ได้สูง ช่วยลดความร้อนภายในรถ เพิ่มความสบายและปกป้องอุปกรณ์ภายในรถได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ฟิล์มประเภทไหนที่เหมาะสมสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า?

ฟิล์มที่เหมาะสมสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าคือฟิล์มเซรามิก (Ceramic Film) และฟิล์มนาโน (Nano Film) เนื่องจากสามารถกันความร้อนและรังสี UV ได้สูงโดยไม่รบกวนสัญญาณดิจิทัล เช่น GPS หรือ Easy Pass และช่วยเพิ่มความสบาย ประหยัดพลังงานในรถไฟฟ้าได้ดี

การติดฟิล์มรถยนต์ไฟฟ้าจะส่งผลต่อสัญญาณ GPS หรือไม่?

การติดฟิล์มรถยนต์ไฟฟ้าอาจส่งผลต่อสัญญาณ GPS หากฟิล์มนั้นมีส่วนผสมของโลหะหรือสารสะท้อนคลื่นวิทยุ เพราะจะทำให้สัญญาณอ่อนหรือรบกวนการรับส่งคลื่น GPS แต่ถ้าเลือกใช้ฟิล์มที่ออกแบบมาไม่กีดขวางสัญญาณดิจิทัลก็จะไม่ส่งผลกระทบต่อ GPS และช่วยให้ระบบนำทางทำงานได้อย่างราบรื่น

แชร์บทความนี้